Tag Archive : ชุดตรวจ hiv

คาเฟอีนในชาเขียวมัทฉะทำให้สมองตื่นตัวนานกว่ากาแฟ 

        เชื่อว่าใครหลายๆคนมักจะมีการดื่มเครื่องดื่มเพื่อให้สมองของตนเองตื่นตัวพร้อมกับการทำงานอยู่ตลอดเวลาหรือแม้แต่บางคนที่รู้สึกง่วงนอนก็อยากจะกินเครื่องดื่มที่ทำให้สมองตื่นตัวซึ่งเครื่องดื่มดังกล่าวนั้นจะต้องมีส่วนผสมของคาเฟอีนโดยส่วนใหญ่แล้วก็คือกาแฟนั่นเอง

    เรียกได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่แทบจะไม่สามารถขาดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนได้เพราะต้องการที่จะให้คาเฟอีนนั้นไปกระตุ้นการทำงานของสมองทำให้ทำงานได้ไหลลื่นและรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในทุกๆเช้าผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีการดื่มเครื่องดื่มประเภทกาแฟเป็นหลัก

คาเฟอีนในชาเขียวมัทฉะ อย่างไรก็ตามในคาเฟอีนนั้นไม่ได้มีเฉพาะเพียงแค่ในกาแฟเท่านั้นพ่อแม้แต่ชาวเขียวมัทฉะเองก็มี คาเฟอีนเป็นส่วนผสมเช่นเดียวกัน 

 อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการทำการวิจัยเกี่ยวกับคาเฟอีนในชาเขียวมัทฉะด้วยผู้ที่ทำการวิจัยได้มีการออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีนที่อยู่ในชาเขียวมัทฉะนั้นว่าถ้าหากใครที่มีการกินชาเขียวมัทฉะเข้าไปเมื่อนำมาเปรียบเทียบคาเฟอีนกับกาแฟแล้วปรากฏว่ากาแฟในคาเฟอีนนั้นมีน้อยกว่าในชาเขียวมัทฉะเป็นอย่างมาก ดังนั้นสามารถกล่าวสรุปได้ว่าหากใครที่กินชาเขียวมัทฉะก็จะมีความรู้สึกตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่าได้นานกว่าการที่กินคาเฟอีนเลยทีเดียว 

 สำหรับการวิจัยที่มีการปรากฏออกมาและมีการถูกนำเสนอเป็นข่าวสารไปทั่วโลกนั้นมีการระบุว่าทางสถาบันการวิจัยได้มีการตรวจสอบสารคาเฟอีนทั้งในกาแฟและในชาเขียวมัทฉะในปริมาณที่เทียบเท่ากันโดยจะเห็นได้ว่าร่างกายนั้นสามารถดูดซึมคาเฟอีนในกาแฟโดยใช้ระยะเวลาเพียงประมาณ 15-30 นาทีเท่านั้น

แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าเป็นการดูดคาเฟอีนจากชาเขียวมัทฉะนั้นจะใช้เวลานานมากกว่าดังนั้นเมื่อคาเฟอีนยังคงออกฤทธิ์อยู่ในร่างกายนาน นาทีเท่านั้นแต่ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าเป็นการดูดคาเฟอีนจากชาเขียวมัทฉะนั้นจะใช้เวลานานมากกว่าดังนั้นเมื่อคาเฟอีนยังคงออกฤทธิ์อยู่ในร่างกายนาน  ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าในการทำงานการสดชื่นก็จะ นานขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง 

  อย่างไรก็ตามสำหรับคาเฟอีนนั้นถ้าหากว่าเรากินในปริมาณที่พอเหมาะก็จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายได้แต่ถ้าหากว่าเรามีการกินคาเฟอีนมากจนเกินไปก็ก็อาจจะส่งผลเสียตามมาด้วยได้เช่นเดียวกันอย่างเช่นอาจจะทำให้เกิดอาการใจสั่นหรือปวดหัวรวมถึงคลื่นไส้ได้ด้วย 

ดังนั้นถ้าหากต้องการได้รับประโยชน์จากการกินคาเฟอีนเข้าไปแล้วล่ะก็ควรจะต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะเพราะมันจะไปช่วยการเผาผลาญพลังงานและไขมันนอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้สมองมีการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ชุดตรวจ hiv

อาการแบบไหนที่เป็นแผลกระเพาะอาหาร

ซึ่งเป็นคำถามที่สุดยอดมากเลยหลายคนก็เข้ามาถามว่าปวดท้องแบบไหนที่เป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นแผลในกระเพาะอาหาร  แผลกระเพาะอาหาร  ดังนั้นเดี๋ยวเราจะมาคุยกันในเรื่องนี้หลายคนบางทีก็ปวดเยอะถึงขั้นปวดมากเลยอันนี้มันจะเป็นกระเพาะหรือว่าเป็นไส้ติ่งกันแน่ 

ก่อนอื่นเรามาดูตำแหน่งของกระเพาะอาหารของเราก่อนกระเพาะอาหารของเราจะอยู่ด้านบนบริเวณช่องท้องของเราแล้วเยื้องไปทางด้านซ้ายหน้าที่ของกระเพาะอาหารก็จะมีหน้าที่ย่อยอาหารเมื่ออาหารผ่านเข้าไปบริเวณที่ปากมันก็จะผ่านเข้าไปที่หลอดอาหารส่งไปยังกระเพาะอาหาร 

เมื่อถึงกระเพาะอาหารก็จะทำการย่อยอาหารจากนั้นก็เพราะอาหารก็จะทำการบีบตัวส่งไปยังลำไส้เล็กลำไส้ใหญ่จากนั้นก็ขับถ่ายออกมาเป็นของเสียถ้ากระเพาะอาหารของเรามีแต่ขึ้นมาหรือว่าเกิดอาการอักเสบขึ้นมาก็จะส่งผลทำให้เรามีอาการปวดท้องขึ้นมาโดยอาการปวดท้องก็จะปวดที่บริเวณลิ้นปี่หรือว่าเยื้องไปทางด้านซ้ายเล็กน้อยและอาการปวดหัวก็จะมีอาการปวดแบบบีบๆแบบว่าปวดแล้วก็คลายปวดแล้วก็คลายแบบนี้จะค้างอยู่ประมาณ 5-10 นาทีได้

ส่วนอาการว่าจะปวดมากหรือว่าปวดน้อยก็คือมันจะขึ้นอยู่แต่ละบุคคลถ้าบางคนเป็นแผลในกระเพาะอาหารมากหรือว่าอักเสบมากมันก็จะมีอาการปวดมากกว่าคนที่อักเสบน้อยนอกจากนี้อาการปวดมักจะเป็นในตอนท้องว่างหรือว่าตอนอดอาหารตอนเราท้องว่างหรือว่าเวลาหิวมันก็จะปวดท้องขึ้นมามันก็จะปวดนิดเดียวและพอกินอาหารลงไปแล้วมันก็จะปวดหลังกินอาหารไปมันก็ยังปวดบิดอยู่หรือพูดง่ายๆว่ากินก็ปวดหิวก็ปวดอันนี้ก็จะเป็นตัวบ่งบอกว่าอันนี้น่าจะเป็นแผลในกระเพาะอาหารแล้ว

นอกจากนี้มันก็อาจจะมีอาการอื่นๆร่วมด้วยได้หรือว่ามีอาการคลื่นไส้ได้หรือว่ามีอาการท้องอืดหรือว่ามีอาการเรอเหม็นเปรี้ยวอยู่บ่อยๆก็ได้เลยทีเดียวหลายคนก็ถามเลยว่าแผลในกระเพาะอาหารนี้มันสามารถเกิดจากอะไรได้บ้างปัจจัยที่จะทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารหลักๆก็จะเกิดจากยาแก้ปวดในกลุ่ม nsaids หรือพวกยาละลายลิ่มเลือดต่างๆ

เพราะว่ากลุ่มยาพวกนี้มันก็จะเข้าไปทำให้ระคายเคืองกระเพาะเกิดแผลในกระเพาะอาหารเกิดกระเพาะอาหารอักเสบขึ้นมาได้ นอกจากนี้คนที่บริโภคหรือว่าดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆไม่ว่าจะเป็นเบียร์เหล้าสีเหล้าขาวหรือว่าไวน์พวกนี้เป็นแอลกอฮอล์มันจะเข้าไปกระตุ้นทำให้กระเพาะอาหารของเราเกิดแผลและอักเสบขึ้นมาได้สมุนไพรบางชนิดก็ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารเช่นกัน

 

สนับสนุนโดย.    ชุดตรวจ hiv

ขับถ่ายยาก ปัญหาที่เราไม่ควรมองข้าม

ขับถ่าย ยากเป็นปัญหาหนัก และเป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายคนเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหานี้สร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตให้กับใครหลายคนเป็นอย่างมาก ทำให้เรารู้สึกอึดอัด และถ้าว่าปล่อยให้ท้องผูก ก็จะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่เพิ่มมากขึ้นไปอีก และเป็นปัญหาที่ร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งลำไส้เลยก็ได้ หากใครที่คิดว่าท้องผูกก็แค่กินยา อย่าคิดว่าหาท้องผูกกินยาแล้วจะหาย เพราะเราไม่รู้เลยว่าเป็นอาการท้องผูกธรรมดา หรือเป็นอาการท้องผูกเรื้อรังไปแล้ว หากไม่ได้รบการตรวจร่างกาย

ขับถ่ายยาก เพราะหากเป็นท้องผูกเรื้อรังก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้ นอกจากนี้แล้วอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดอาการท้องผูกก็คือ พฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรานั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องของการขับถ่ายจึงเป็นปัญหาที่เราทุกคนนั้นไม่ควรมองข้ามมันอย่างเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลได้มากต่อสุขภาพร่างกายของเรา ดังนั้น ปัญหาการขับถ่ายจะเป็นเรื่องง่าย หากคุณได้ลองทำตามวิธีที่เราได้นำมาฝากกัน ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ ทั้งยังสามารถช่วยลดอาการท้องผูกได้อีกด้วย

ขับถ่ายให้เป็นเวลา การขับถ่ายให้เป็นเวลาจะช่วยให้ระบบการขับถ่ายของเราทำงานได้ดีมากขึ้นตลอดทั้งวัน และที่สำคัญเลยเราไม่ควรอั้นอุจจาระ เพราะจะส่งผลเสียต่อลำไส้ของเรา การขับถ่ายที่ดีคือการเลือกเวลาในการขับถ่าย และปรับเปลี่ยนท่าให้เหมาะสมเวลาเข้าห้องน้ำ หรือหากต้องการถ่ายคล่องมากขึ้น ก็ควรที่จะมีเก้าอี้เล็ก ๆ หนึ่งตัวไว้พักขา เรียนแบบทางนั่งยอง ๆ เพื่อให้การขับถ่ายของเรานั้นสะดวกมากขึ้น 

การรับประทานอาหาร การเลือกรับประทานอาหารประเภท ผักผลไม้ หรือธัญพืช จะสามารถเพิ่มใยอาหารให้แก่ร่างกาย และเป็นผลดีต่อระบบขับถ่ายของเรา เพราะอาหารที่มีกากใยอาหารสูงนั้น มักจะพบในผัก ผลไม้ ซึ่งอาหารประเภทนี้แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายและผิวพรรณของเราเท่านั้น ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นอาหารที่สามารถช่วยลดอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี หากใครที่มีปัญหาถ่ายไม่คล่อง และท้องผูกอยู่บ่อย ๆ ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนม เพราะนมจะมีขันสูงที่อาจส่งผลเสียต่อระบบขับถ่ายได้ 

การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือการออกกำลังกาย การทีเราจะช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย แน่นอนว่าต้องมีการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง เล่นโยคะ หรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยให้ร่างกาของเราได้เคลื่อนไหว เพียงทำวันละ 20-30 นาที จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเคลื่อนไหวลำไส้ให้ทำงานได้เป็นปกติอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  ชุดตรวจ hiv