สุขภาพหลังวัยเกษียร

สุขภาพหลังวัยเกษียร

สุขภาพไม่ว่าจะช่วงวัยไหนก็ถือว่าเป็นเร่องที่สำคัญและควรใส่ใจดูแลรักษาอยู่เสมอ และสำหรับสุขภาพในช่วงวัยหลังเกษียรนั้นก็ถือว่าเป็นช่วงที่ต้องให้ความสำคัญและมีการดูแลทั้งการดูแลด้วยตัวเองและจากคนรอบข้างด้วย เพราะคนในช่วงวัยเกษียรโดยส่วนใหญ่อายุก็จะเฉลี่ยอยู่ที่ 55-65 ปีซึ่งก็แล้วแต่บุคคลออกไป

สุขภาพหลังวัยเกษียรนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ถูกสะสมมาตั้งแต่ในช่วงวัยเด็ก วัยรุ่น จนกระทั่งวัยทำงานและมาสู่ในวัยเกษียรนั่นเอง สุขภาพจะดีหรือไม่ หรือเป็นไปในทิศทางใด การทำงานในช่วงวัยทำงานนั้นก็สามารถเป้นสิ่งที่บ่งบอกสุขภาพในวัยเกษียรได้ มาว่าจะเป็นกรทำงานหนักหลังวัยเกษียรโดยส่วนใหญ่ก็จะมีร่างกายที่ทรุดโทรมและอ่อนล้าง่าย

เนื่องจากในช่วงก่อนนั้นได้ทำงานหรือใช้ร่างกายมาอย่างหนักนั่นเองและคนที่ทำงานสบายหรือไม่ได้มีการใช้ร่างกายอย่างหนักนั้นหลังวัยเกษียรแล้วสุขภาพร่างกายก็อาจจะยังแข็งแรงอยู่นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามการทำงานก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีทั้งหมดว่าสุขภาพร่างกายนั้นจะเป็นอย่างไร มาดูกันว่าปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของสุขภาพหลังวัยเกษียรนั้นมีอะไรบ้างและมีการแก้ไขรักษาอย่างไรเพื่อให้ร่างกายและสุขภาพนั้นสามารถมีอายุอยู่ได้ยาวนาน

กระดูกและข้อ ต้องยอมรับเลยว่าถึงแม้จะไม่ได้มีการทำงานอย่างหนักในช่วงวัยก่อนเกษียรนั้น แต่สำหรับตนช่วงวัยนี้ต่างก็พบปัญหากระดูกและข้อทั้งสิ้น กระดูและข้อที่มีความเสื่อมจึงอาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดในบางครั้ง หรือบางคนก็เกิดกระปวดและเจ็บแบบเรื้อรังก็มี ซึ่งก็เกิดมาจากความเสื่อมที่มาตามอายุไขนั่นเอง ดังนั้นแล้วสำหรับคนในวัยหลังเกษียรเมื่อพบว่ามีอาการเหล่านี้ทางที่ดีควจะไปพบแพทย์เพื่อดูว่าควรจะต้องรักษาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเป็นอาการเรื้อรังเพราะอาการเรื้อรังที่เกี่ยวกับกระดูและข้อนั้นถือว่าเป้นปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่ง

ที่รักษายากเพราะร่างกายจะต้องมีการขยับอยู่ตลอดเวลานั่นเอง และควจะพักกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวมากเช่นการเดิน การวิ่ง ในช่วงวัยนี้ก็อาจจะต้องเลี่ยงกิจกรรมเหล่านี้ไปบ้างเมื่อมีอาการหรือมีปัญหากับกระดูกและข้อ

อาการเจ็บป่วยออดแอด แน่นอนว่าพบได้ทั่วไปและยังอาจจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงวัยก่อนเกษียรก็ได้แต่อาการอาจจะมาเพิ่มขึ้นในช่วงวัยหลังเกษียรนั่นเอง การปวดออดแอดนั้นส่วนหนึ่งมาจากสุขภาพที่เสื่อมโทรมลงทำให้ภูมิคุ้มกันนั้นลดลงและเกิดการป่วยได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงก็สามารถที่จะทำให้เกิดอาการป่วยเล็กน้อยได้ ก็ถือได้ว่าเป็นปัญหาอย่างมากของคนในช่วงวัยนี้ ก็อาจจะต้องพบแพทย์กันเป็นประจำเพื่อความแน่นใจว่าไม่ได้เป็นอะไรที่ร้ายแรง

โรคร้ายที่อาจจะกำเริบ ถือว่าพบมากเลยทีเดียวในช่วงวัยนี้ เพราะเป้นช่วงวัยที่ภูมิต้านทานร่างกายต่ำลงและเมื่อพักผ่อนจากการเกษียรไปสักระยะแล้วอาการเหล่านี้มักแสดงออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะเป้น เบาหวาน มะเร็งเป็นต้น อย่างไรก็ตามถ้าหากรู้เร็วและรักษาอย่างถูกต้องก็จะทำให้สุขภาพหลังเกษียรนั้นเป็นไปอย่างดีและราบรื่น

 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยฮานอย

อาการกรดไหลย้อน

   อาการของกรดไหลย้อน ที่ไครก็สามารถที่จะเป็นได้เพราะว่าอาการนั้นก็มักจะเป็นหลังจากการที่เรากินอาหารเข้าไปสักพัก อาการก็จะเริ่มจากมีอาการเกี่ยวกับการเลอออกมาโดยที่มีกลิ่นเปรี้ยวและอาการอึดอัดบริเวณอก  หรือว่าเป็นลักษณะของการอาเจียนออกและรู้สึกว่ามีอะไรมาติดอยู่มี่บริเวณตรงคอ และสาเหตุที่ทำให้เรามีอาการดังกล่าวก็มาจากการที่เรารับประทานอาหารที่เป็นรสชาติที่จัด  หรือว่ารสชาติที่เปรียวมากอย่างนี้เป็นต้น และเมื่อเรามีการเกี่ยวกับการที่เป็นกรดไหลย้อนก็อาจจะทำให้เรากลายเป็นโรคมะเร็งได้ ดังนั้นเราไม่ควรที่จะปล่อยทิ้งเอาไว้ 

   และเมื่อเรารู้ตัวว่าเรามีอาการเป็นกรดไหลย้อนสิ่งที่เราควรจะจำก็คือ การที่เราเลือกที่จะรับประทานอาหาร โดยอาหารที่มีรสอ่อนไม่กินอาหารที่มีรสชาติที่จัดมากเกินไป แต่ถ้าเราบังเอินกินอาหารรสจัดๆเข้าไปเสียแล้ว เราสามารถที่จะเลือกกินเป็นยาลดกรดได้ เพราะว่าการที่เราทานยาลดกรดก็จะช่วยให้เราลดอาการที่เราเป็นได้  ส่วนมากที่จะเป็นกรดไหลย้อนนั้นเกิดมาจากการที่เรากินอาหารอิ่มแล้วเราก็นอนเลย  และเมื่อเราทำอย่างนี้ก็จะทำให้เราเป็นกรดไหลย้อนในเวลาที่เรานอน จะมีอาการเกี่ยวกับการที่เรารู้สึกว่ามีอาการแสบที่ท้องและอาจจะรู้สึกว่าการนอนนั่นไม่สบายตัวเหมือนปกติ

    ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการที่จะเป็นกรดไหลย้อน 

  อาจจะมีสิ่งอื่นๆที่จะทำให้เราเสี่ยงต่อการที่จะเป็นกรดไหลย้อนก็มีอย่างเช่น  การที่เรามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น และยังมีการที่เรากินอาหารอิ่มแล้วนอน รวมไปถึงการที่เรากินผลไม้ที่มีรสชาติที่เปี้ยว อย่างเช่นส้ม มะนาว เพราะว่าสิ่งที่เราได้กล่าวมานั้นเป็นอาหารที่จะเข้าไปกระตุ้นการที่จะทำให้เกิดเป็นกรดอย่างนี้เป็นต้น

   ความเครียดกับกรดไหลย้อน

เราได้วิจัยออกมาแล้วว่าเมื่อเราเกิดอาการเครียดก็จะส่งผลให้ระบบของร่างกายของเราเกิดอาการป่วนแปร ดังนั้นเมื่อได้รับประทานบางอย่างที่ทำให้เกิดการเป็นกรดเข้าไปแน่นอนว่าเราต้องรู้สึกว่าจะเป็นกรดไหลย้อนได้ไวกว่าคนปกติ

การรักษาช่วยลดกรดไหลย้อน 

เริ่มจากการที่เราต้องดูแลร่างกายของเราโดยเรื่องหลักก็มาจากการที่เรากินอาหาร ดังนั้นเมื่อเรารู้ตัวว่าเรากินอาหารแล้วนอนมักจะเป็นจุดเสี่ยงต่อการที่จะทำให้เกิดเป็นกรดไหลย้อน  และสิ่งที่เราทำได้ก็คือการที่เรากินอาหารอิ่มแล้วไม่ควรที่จะนอนเลย ให้เรานั่น หรือว่าเดินให้อาหารของเราย่อยก่อนแล้วค่อนเข้านอนเพราะว่าไม่อย่างนั้นก็อาจจะเป็นกรดไหลย้อนได้อีกเหมือนกัน และนอกจากนี้ก็ให้ลดเครื่องดื่มเกี่ยวกับแอลกอฮอล์เพราะว่าจะช่วยลดการเสี่ยงต่อการลดกรดได้เป็นอย่างดี 

 

สนับสนุนโดย  aecasino

สิ่งที่ไม่ควรทำหลังมื้ออาหาร

 โดยวันนี้เราจะมาบอกข้อห้ามที่ไม่ควรทำหลักมื้ออาหารข้อแรก ไม่ควรสูบบุหรี่ทันทีหลังมื้ออาหาร เขาได้บอกเอาไว้ว่าการสูบบุหรี่หลังอาหารทันทีมีโอกาศที่จะเสียงเป็นมะเร็งปอดเป็นโรคถุงลมโปร่งฟองในอัตราส่วนที่สูงกว่าคนที่สูบบุหรี่เวลาอื่นถึง10เท่าบอกเลยว่าไม่ธรรมดา

เพราะฉะนั้นแล้วไม่ควรสูบบุหรี่ทันทีหลังอาหารถ้าจะให้ดีที่สุดก็อย่าไปสูบมันเลยจะดีกว่าเพราะว่ามันไม่ได้ช่วยทำให้ชีวิตของคุณมันดีขึ้นมันจะทำให้เราแย่กว่า

สำหรับในข้อที่สองไม่แนะนำให้ดื่มน้ำอัดลมหรือผลที่มีแก๊สมากรวมทั้งผลไม้ที่มีแก๊สมากเพราะว่ามันะทำให้ท่านท้องอืดในเวลาหลังอาหารมากทำให้ระบบย่อยมีปัญหาผลไม้ที่มีแก๊สมากตัวอย่างเช่นทุเรียนเป็นต้นเวลาท่านทานแล้วท่านมักจะเรอแบบนี้ระบบย่อยก็จะไม่ค่อยดีไม่ค่อยเหมาะสมไม่ค่อยแนะนำให้ท่านรับประทานอย่างอื่นจะดีกว่าเช่นส้มแตงโมเป็นต้นจะดีกว่า

นอกจากนี้ข้อที่สาม ไม่แนะนำให้ดื่มชาที่มีความเข้มข้นมากๆหลังอาหารทันทีคือชาเบาๆชงจางๆไม่เข้มมากอันนี้โอเคให้มันโล้งท้องแบบนี้ได้แต่ถ้าเข้มข้นมากๆไม่แนะนำเขาบอกว่าจะทำให้ระบบการดูดซึมอาหารแย่ลงแล้วก็บางครั้งมันก็จะทำให้ท้องผุกด้วยมีวิจัยบางอันบอกว่าจะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กแย่ลงและการมีธาตุเหล็กแย่ลงจะทำให้เราเป้นโรคได้หลายอย่างรวมทั้งเป็นโรคโลหิตจางด้วยอันนี้อันตรายมากๆ

เนื่องจากนี้ในข้อห้ามข้อที่สี่นั่นคือ อย่าทานมากจนต้องปลดกระดุม เพราะว่าเมื่อท่านทานมากขนาดนั้นระบบการย่อยมัมนจะมีปัญหาอาหารมันจะเต็มกระเพาะไม่อย่างนั้นท้องท่านไม่ป่องขนาดนั้นหรอกรวมทั้งบางคนที่เป็นโรคกดไหลย้อนก็จะยิ่งมีอาการมากขึ้นไม่แนะนำจริงๆ

ซึ่งข้อห้ามที่ห้าที่ห้ามทำก็คือ ไม่แนะนำให้อาบน้ำทันที โดยเฉพาะน้ำร้อนหลังทานอาหารเสร็จเพราะอะไรอันนี้แรกคือมักจะจุกท้องแน่นอืดระบบย่อยมีปัญหาอันที่สองเลือดไปเลี้ยงกระเพาะมากตอนย่อยอาหารรวมทั้งเวลาโดนน้ำร้อนเลือดไปเลี้ยงผิวหนังมากเส้นเลือดขยายตัวเลือดมันเลยไปที่สมองน้อยบางทีมันทำให้เราเวียนหัวหน้ามืดเป็นลมได้อันตรายมากๆเพราะฉะนั้นแนะนำทานอาหารเสร็จไปเดินเล่นก่อนสักพักแล้วค่อยมาอาบน้ำจะดีที่สุด

นอกจากนี้ข้อห้ามที่หก ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายหนักๆทันทีหลังมื้ออาหารการออกกำลังกายหลังมื้ออาหารเช่นการเดินย่อยนั่นคือการออกกำลังกายเบาๆอย่างนี้แนะนำทำให้กระเพราะและลำไส้ของเรามีการขยับทำให้ระบบย่อยเราดีขึ้นแต่การออกกำลังกายหนักๆทำให้ทุกอย่างดูแย่ลง

 

สนับสนุนโดย    สูตรหวยยี่กี 2ตัวล่าง lottovip

วิธีการรักษาแผลเจาะหู ที่เกิดการติดเชื้อ

สำหรับหนุ่มสาวคนไหนที่ไปเจาะหูมาแล้วเกิดอาการติดเชื้อหรือว่าหูอักเสบอย่างเช่น เรามีความรู้สึกว่าหูของเราเกิดรอยแดงบริเวณที่เจาะหูมา แต่ถ้าเป็นรอยแดงที่เกิดจากการเจาะหูมาแค่หนึ่งถึงสองวันแรก ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของการเจาะหู แต่ถ้าเจาะมาได้ประมาณซัก 1 อาทิตย์แล้ว ยังมีอาการเกี่ยวกับรอยแดง หรือว่าคันให้เราสังเกตอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของการติดเชื้อจากการเจาะหูมา เรามาดูว่ามีอาการอะไรบ้าง

  • ให้เราสังเกตรอยแดงที่บริเวณหูที่เราเจาะมาว่ามีอาการบวมแดงออกมาจากรอยเจาะหูหรือเปล่า
  • มีความรู้สึกเกี่ยวกับอาการคัน บวมแดง ปวดอักเสบ และมีความรู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณรอบหูที่เราเจาะมามากกว่าเดิม
  • มีหนองไหลออกมา หนองที่ไหลออกมาเป็นสีเหลืองหรือสีเขียวข้นถือว่าเป็นเรื่องปกติของการเจาะหู แต่ถ้า มีน้ำเหลืองไหลอยู่ตลอดเวลาบวกกับอาการบวมแดงร่วมด้วยนั่นถือว่าเป็นอาการที่ผิดสังเกต
  • หากเกิดอาการไข้อย่างเช่นก่อนที่เราจะไปเจาะหูเรามีอาการปกติไม่ได้เป็นหวัดหรือว่ามีไข้แต่อย่างใด แต่ถ้าหากหลังจากการเจาะมาแล้วเกิดมีไข้คุณก็ควรระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของการติดเชื้อจากการเจาะหู

ให้เราเริ่มต้นทำการรักษาด้วยตนเอง

  • เช็ดทำความสะอาดรูหูของเราด้วยน้ำเกลือ หรือว่าน้ำต้มสุก
  • เราไม่ควรที่จะนำมือของเราไปจับหรือไปแตะบริเวณแผลของเรา แต่ถ้าเราจะทำความสะอาดเราควรที่จะล้างมือก่อนทุกครั้งที่เราจะสัมผัสบริเวณของแผลที่รูหูเพราะว่าอาจจะเกิดการติดเชื้อหรือติดแบคทีเรียจากมือของเราไปสู่หูได้อีก ถ้าไม่อย่างนั้นให้เราใช้ไม้คัตเตอร์บัตทำความสะอาด และไม่ควรที่จะใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดแผลที่รูหูโดยตรงเพราะอาจจะทำให้เกิดการแผลไม่หายสนิทและยังทำให้มีน้ำเหลืองไหลออกมา
  • เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ เริ่มจากการที่เราต้มน้ำอุ่นและเราก็ใส่เกลือลงไปจากนั้นก็ละลายน้ำเกลือเม็ดหรือเกลือป่นให้ละลายเป็นน้ำเดียวกับน้ำต้มสุกจากนั้นเราก็ทิ้งไว้สักพักให้เย็นลงสักหน่อยหรืออุ่นๆจากนั้นเราก็นำสำลีไปจุ่มและเช็ดทำความสะอาดที่บริเวณแผลที่รูหูของเราทำอย่างนี้ประมาณซัก 1 อาทิตย์แผลของเราจะหายและแห้งสนิทแล้ว
  • เราไม่ควรลงเล่นน้ำ ในขณะที่เราเพิ่งเจาะหูมาใหม่ๆหรือเกิดแผลติดเชื้อซึ่งเราไม่ควรที่จะลงเล่นน้ำในสระโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้แผลของเราไม่หายอีกทั้งยังทำให้ติดเชื้อหนักยิ่งกว่าเก่าเข้าไปอีกทางที่ดีเราไม่ควรที่จะลงเล่นน้ำรอให้หายก่อน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  ae บาคาร่า

อาการปวดคอและร้าวมาถึงแขน

อาการปวดคอที่เราพบได้บ่อยโดยเฉพาะกลุ่มของคนทำงาน และส่วนมากจะต้องทำงานเกี่ยวกับหน้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องนั่งอยู่เป็นเวลานานๆ อาการปวดคอ ที่เราสามารถจะช่วยบรรเทาได้นั่นก็คือการที่เรานวด หรือว่าจะเป็นการที่เราหมุนคอเพื่อที่จะช่วยในการผ่อนคลาย แต่ถ้าหากอาการของเรารู้สึกเริ่มปวดที่รุนแรงมากขึ้น

จนทำให้เรารู้สึกว่าอาการปวดคอลามไปถึงบริเวณของแขน ไหล่ นิ้วมือ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจจะเป็นหมอนรองกระดูกสันหลังเกิดอาการเสื่อมหรือว่าไปทับเส้นประสาทของไขสันหลัง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้เราควรที่จะไปพบหมอ เพื่อที่จะได้ทำการตรวจรักษาในขั้นตอนต่อไป

     สาเหตุที่ทำให้เราปวดคอ

  • กิจวัตรประจําวัน อย่างเช่น การที่เรานั่งดูโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ หรือว่าการที่เราใช้คอมพิวเตอร์และนั่งอยู่ในท่าเดิมประจำเป็นเวลานาน โดยที่เราไม่ลุกขึ้นขยับร่างกายของเรา ก็อาจจะทำให้กล้ามเนื้อของเราเกิดอาการเส้นยึด หรือว่ากล้ามเนื้อคอที่ผิดท่า จนทำให้เราเกิดอาการปวดคอได้ดังกล่าว
  • ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม ซึ่งภาวะนี้จะอยู่ในช่วงของคนที่อายุสูงคือหมอนรองกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็นกระดูก มีการเสื่อมสภาพ ด้วยอายุของแต่ละบุคคลจึงทำให้กระดูกสันหลังของเราไม่มีความยืดหยุ่น และไม่แข็งแรง และยิ่งกระดูกสันคอของเรามีอาการเสื่อมก็อาจจะทำให้เรามีอาการปวดคอได้ดังกล่าว
  • การติดเชื้อ  การติดเชื้อต่างๆไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับวัณโรค   แบคทีเรีย หมอนรองกระดูกสันหลัง ก็อาจจะส่งผลให้เรามีอาการปวดคอหรือว่ามีอาการปวดหัวรวมไปถึงเกี่ยวกับคอของเราเกิดไม่ค่อยเหมือนปกติคอแข็งอย่างนี้เป็นต้น

วิธีในการรักษา

  • การรักษาด้วยยา คุณหมออาจจะถามอาการของเราและอาจจะสั่งยาตามอาการของแต่ละคน ว่าอาการแต่ละคนมีอาการที่รุนแรงมากน้อยเพียงใดแต่ถ้าสำหรับคนไข้บางคนมีอาการที่รุนแรงมากคุณหมออาจจะใช้ยาสเตลอยหรือเป็นยาชาเพื่อจะเข้าทำการฉีดบริเวณใกล้ลากประสาทซึ่งอยู่ตรงกับกระดูกสันหลัง เพื่อที่จะช่วยในการรักษาและช่วยในเรื่องของการลดอาการปวด และทำให้เรามีอาการปวดที่เบามากขึ้น 
  • การทำกายภาพบำบัด  เป็นการที่เราช่วยในเรื่องของกระดูกการสันหลังบริเวณคอของเรา ให้คราย ยืดกล้ามเนื้อช่วยลดอาการเกร็งของบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอของเราและการที่เรานวดอย่างถูกวิธีก็อาจจะช่วยให้เราลดอาการปวดบริเวณต้นคอของเราบรรเทาได้
  • การผ่าตัด  แพทย์อาจจะต้องใช้วิธีในการผ่าตัดเพื่อช่วยในเรื่องของการบรรเทาอาการปวดของแต่ละบุคคลซึ่งบางคนอาจจะมีอาการที่รุนแรงจนทำให้เราต้องมีการผ่าตัดเพื่อช่วยให้อาการปวดของแต่ละคนมีความบรรเทามากขึ้นอย่างเช่นผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับรากประสาทหรือไขสันหลังถูกกดทับซึ่งเป็นอาการเรื้อรังในกรณีนี้คุณหมอก็จะทำการผ่าตัดให้ซึ่งก็อยู่ในแต่ละบุคคลว่ามีอาการแตกต่างออกไปอย่างไร

 

 

สนับสนุนโดย  เว็บคาสิโนเปิดใหม่

ถ้าไม่อยากให้น้องสาวมีกลิ่นเหม็น หยุด!พฤติกรรมเหล่านี้

สำหรับน้องสาวคนไหนที่ตอนนี้กำลังมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อยู่ ซึ่งทำให้เรามีความรู้สึกว่ากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่มาติดอยู่กับน้องเราเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการเหม็นอับและทำให้ภายในของเรามีความบกพร่องดังนั้นเราควรที่จะรีบทำการรักษาหรือหาวิธีในการหลีกเลี่ยงที่จะช่วยให้น้องสาวของเราไม่มีกลิ่นเหม็น

ถ้าหน้าตาของเราดีแต่ว่ากลิ่นของน้องสาวเราแรงก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ไม่ดีแถมยังเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เอาแบบง่ายๆว่าถ้าใครมีกลิ่นของน้องสาวรออยู่แน่นอนว่าคนอาจจะต้องใส่หัวเลยทีเดียว ซึ่งเราจะต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่ว่าการที่เราทำความสะอาดน้องสาวของเราให้สายอยู่ตลอดเวลาโดยเป็นการกรนหรือ Wax สิ่งที่หลายๆคนเข้าใจผิดมา

โดยตลอดเพราะว่าการที่เราแวะหรือว่าโกนขนอาจจะทำให้น้องสาวของเราสามารถติดเชื้อและมีแบคทีเรียได้มากเหมือนกันเพราะว่าขนของน้องสาวของเราจะช่วยในเรื่องของการยับยั้งเชื้อโรคที่ไม่ให้เข้าไปในช่องคลอดของเราได้ง่ายและยังช่วยในเรื่องของการระบายความอับชื้นและรักษาน้องสาวของเราไม่ให้มีกลิ่นอีกด้วยดังนั้นใครที่กำลังคิดที่กำลังจะโกนน้องสาวขอให้หยุดคิดสักนิดเพื่อที่จะได้รู้ข้อดีของการที่น้องสาวมีขน

        สาวคนไหนที่ชอบใส่กางเกงที่ฟิตมากอาจจะต้องผิดหวังเพราะว่าการที่เราใส่เสื้อผ้าที่รัดเสมอน้องสาวของเราหรือว่าทำให้น้องสาวของเราแน่นจนหายใจหายคอไม่ค่อยออกนั่นเป็นเดือนว่าอาจจะทำให้เกิดของความอับชื้นได้นอกจากนี้กางเกงที่เราใส่แน่นฟิตมากจนเกินไปอาจจะทำให้เสียดสีและก็กลายเป็นง่ามขาบริเวณขาหนีบเรามีลักษณะที่ดำและก็ทำให้การระบายอากาศไม่ดีอีกด้วยและสิ่งเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่ทำให้น้องสาวของเรามีกลิ่นได้นั่นเองดังนั้นสาวๆคนไหนที่รู้ตัวว่าชอบใส่กางเกงฟิตรัดมากก็ต้องระวังด้วยเกี่ยวกับเรื่องของกลิ่นเดี๋ยวจะหาว่าเจ้ไม่บอก

           การที่เราใส่ผ้าอนามัยจนติดสาวๆเป็นควายความสะอาดกันอย่างมากดังนั้นจึงติดในเรื่องของการใส่ผ้าอนามัยแบบจิ๋วทุกวันเพื่อที่จะป้องกันเกี่ยวกับเรื่องของการตกขาวคราบเปื้อนกางเกงในอันนี้เป็นต้นแต่จะรู้ตัวหรือไม่ว่าการที่เราใส่ผ้าอนามัยจิ๋มตลอดเวลาเป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะทำเพราะว่าอาจจะทำให้น้องสาวของเรามีความอับชื้นและประหยัดได้เพราะอากาศไม่ค่อยถ่ายเทและทำให้เป็นสิ่งที่หลักหมุนไหล่ของเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย

      และสิ่งสุดท้ายนี้ก็คือการที่เราเลือกชุดชั้นในเราควรที่จะใส่ใจในการเลือกชุดชั้นในของเราการที่เราใส่ชุดชั้นในไม่ว่าจะเป็นชุดแบบราคาถูกหรือว่าราคาแพงให้เราใส่ใจสักนิดเพราะการที่เราใส่ชุดชั้นในในราคาที่ถูกและเป็นผ้าคัตตอนหรือผ้ายืดอาจจะทำให้เป็นแหล่งของการทำให้เกิดกลิ่นระคายเคืองได้

และเราควรที่จะเปลี่ยนกางเกงหรือชุดชั้นในของเราให้เป็นผ้า Cotton หรือไม่ก็ผ้าฝ้าย และเราก็ไม่ควรที่จะซักชุดชั้นในของเราแล้วตากเอาไว้ในบริเวณในร่มเพราะการที่เราตากชุดชั้นในเอาไว้ในร่มจะเป็นแหล่งของการแพร่เชื้อแบคทีเรียได้และเมื่อเราได้เอาไปใส่ก็จะทำให้เกิดกลายเป็นเชื้อราดังนั้นเราควรที่จะใส่ใจในเรื่องของการตากแดดเขาว่าจะได้ฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ใส่ใจสักนิดในการเลือกชุดชั้นใน

 

 

สนับสนุนโดย  คาสิโน ปอยเปต

6 วิธีคิด ชีวิตเปลี่ยน ของคนมองโลกในแง่ดี

คุณหรือไม่ว่าใครก็สามารถคิด ในทางดีได้ และในทางไม่ดีได้ แต่คนเราจะคิดในแง่ไม่ได้ในง่ายร้ายให้รู้สึกหดหู่หรือท้อไปทำไมกันละ หันมาคิดดี หรือมองโลกในแง่ดีดีกว่านะ มันจะช่วยทำให้คุณมีพลังและดึงดูดสิ่งดีๆมาหาคุณเช่นกันวันนี้เรามี วิธีคิดที่จะเปลี่ยนชีวิตของคนมองโลกในแง่ดี มาฝากกัน

เชื่อว่าคุณยังมีโอกาสอยู่ทุกทีและมีอยู่เสมอ 

บางครั้งความเครียดหรือความท้อ อาจะทำให้คุณไม่เห็นมัน แต่คุณเชื่อหรือไม่ ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ จริงๆ เพียงแค่คุณใช้สติปัญญาและใจที่สงบนิ่ง คุณก็จะหามันเจอ ถึงมันจะเล็กขนาดไหน คุณก็จะหามันเจออย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจงเชื่อมั่นว่ามีโอกาสอยู่ทุกทีและมีอยู่เสมอๆ

เชื่อว่าคุณมีความฉลาดและสร้างสรรค์ 

คุณจงเชื่อในความฉลาดและความสร้างสรรค์ในตัวคุณ  เพราะ 2 สิ่งนี้จะทำให้คุณมั่นใจว่าคุณจะทำมั่นได้ ด้วยสติปัญญาและความคิดของคุณ ไม่ว่ามันจะยากหรือหนักหนาขนาดไหน คุณก็จะคิดหาทางออกมันได้อย่างแน่นอน

เชื่อมั่นว่า สิ่งดีๆจะเกิดขึ้น

เปลี่ยนความคิด ชีวิตคุณเปลี่ยน นั้นหมายถึง ถ้าคุณเชื่อมั่นว่าสิ่งดีๆกำลังจะเกิดขึ้น และมองในแง่บวก สิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นจากแรงดึงดูดที่คุณว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ๆ เพราะมันมากจากพลังบวกในตัวคุณนั้นเอง 

 เชื่อมั่นว่า เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น มันไม่เป็นไร เกิดไปแล้ว เริ่มใหม่ได้

มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆเลยที่คุณจะเกิดความรู้สึกท้อแท้ หรือ ผิดหวัง แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยคุณได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด นั้นก็คือ ความคิดและจิตใจคุณ คุณแค่เชื่อมั่นว่า ทุกอย่างมันจะดีขึ้น และบอกกับเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาว่าไม่เป็นไร สิ่งๆดีรอเราอยู่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เริ่มต้นใหม่กันเถอะ

เชื่อมั่นในคุณค่าของตัวคุณเอง

ถ้าคุณไม่เชื่อมั่นในตัวเองแล้วใครเค้าจะมาเชื่อมั่นในตัวคุณ เพราะฉะนั้นจงมองโลกในแง่ดีกับตัวเองด้วย และคิดบวกโดยให้คุณค่ากับตัวเอง ขอบคุณตัวเองที่ผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยดี และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตัวคุณนั้นเข้มแข็งพอที่ผ่านมาได้อย่างแน่นอน

เชื่อในวิสัยทัศน์อันกว้างไกล 

การที่คุณจะต้องผ่านสถานการณ์ร้ายๆมาหลายครั้งหลายหน จงเชื่อมั่นว่าที่คุณผ่านมันมาได้เพราะวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของคุณ เพราะฉะนั้นการที่คุณเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตนเอง เพราะมันจะเป็นแรงผลักดันให้คุณได้ก้าวต่อไปเรื่อยๆนั้นเอง 

การที่คุณเป็นคิดบวก จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ เพราะไม่ว่าเจอเรื่องเลวร้ายขนาดไหน แต่คุณคิดบวกและมีจิตใจดี มันจะผ่านทุกอย่างมาได้นะ

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่า บิกินี่

คนที่ไปต่างประเทศ ถ้าทำ IF อยู่ต้องทำยังไงดี

สำหรับคนที่ลดน้ำหนักและกำลังทำ IF หรือ Intermittent fasting ที่อดอาหารในระบบเวลาหนึ่งและกินอาหารในช่วงเวลาหนึ่งนั้นเอง แต่การที่เพื่อนๆที่กำลังทำวิธีนี้อยู่แล้วต้องไปต่างประเทศจะทำยังไงดีละ วันนี้เรามีวิธีหรือเคล็ดลับที่ช่วยปรับให้ไปทำ IF หรือ Intermittent fasting ได้อยู่นะ เราไปดูกันเลย

ลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตก่อน 

การที่เพื่อนๆต้องไปทำ IF ที่ต่างประเทศ อย่างแรกเลย เวลาที่จะต้องปรับ มันจะขึ้นอยู่กับการที่เราไปประเทศไหน เพราะฉะนั้นระหว่างการปรับตัว พยายามลดคาร์โบไฮเดรตก่อน จนกว่าจะเริ่มปรับตัวกับประเทศนั้นๆได้แล้ว ค่อยเพิ่มปริมาณของคาร์โบไฮเดรตนะ เพราะการที่เพื่อนๆต้องปรับตัวและปรับเวลาสำหรับการที่เราต้องไปต่างประเทศนั้น มันมีโอกาสที่ทำให้เรากินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป และมันจะสะสมไปเป็นไขมัน ได้ 

ขยับเวลาตามประเทศที่เราไป การที่เพื่อนๆจะต้องไปต่างประเทศตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป แนะนำว่าให้เพื่อนๆปรับการทำ IF ให้เหมาะกับเวลาที่เราไปประเทศนั้นๆได้เลย ซึ่งถ้าเพื่อนๆปรับตัวสักวัน 2 วัน และค่อยเริ่มทำ IF ในวันที่ 3 เป็นต้นไป ก็จะสามารถกลับเข้ามาสู่โหมด IF ได้เหมือนเดิม

ปรับให้สมดุลตามความเหมาะสม การที่เพื่อนๆจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ต้องสติ๊กเวลาขนาดนั้นหรอก หากเพื่อนๆทำIF 18/6 ก็อาจจะเปลี่ยนเป็น IF 12/12 ก็ได้นะ คือยืดหยุ่นตามความเหมาะสมและทำให้สมดุลนั้นเอง หากขาดหรือเกินไปไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนๆไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้นหรอก เพราะหากเพื่อนๆเครียดขึ้นมาละก็ ร่างกายจะหวงไขมันขึ้นมา ไม่ยอมเผาผลาญไขมันออกไปได้นะ

กินอาหารว่างที่มีประโยชน์เพื่อลดความหิว

เวลาไปต่างประเทศเราควรพกอาหารว่างไว้กับตัวกัน ความหิวที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างวัน การทำ IF ที่ต่างประเทศไม่สามารถควบคุมเวลาในการกินอาหารได้ชัดเจน เพราะบางทีเราเจอร้านอาหาร บางทีเราไม่เจอร้านอาหาร เพราะฉะนั้นวิธีที่ช่วยให้ทำ IF สำเร็จเวลาไปต่างประเทศ แนะนำว่าควรพกอาหารว่างกันหิวไม่ให้เราเกิดการตบะแตกในช่วงที่หิวจัดๆ เพราะกว่าเราจะเจอร้านอาหารบางทีมันอาจจะอยู่ในช่วงที่เราอดอาหารแล้วก็ได้ 

ทำ IF แบบไม่เครียด วันไหนที่เราสะดวกทำ IF เราก็แค่ทำมัน อดอาหารในระยะเวลาที่กำหนดและกินอาหารในช่วงเวลาที่กินได้ เพราะฉะนั้นการที่เพื่อนๆไปต่างประเทศก็ทำ IF แบบไม่ต้องเครียดก็ได้นะ เพราะอย่างน้อยการที่ทำ IF บางและเลือกกินอาหารที่ดีอยู่ ถึงเวลากลับประเทศ น้ำหนักเราก็จะไม่เด้งขึ้นมาสูง แน่นอน ดีไม่ดีน้ำหนักอาจจะลดลงได้เลยนะ

 

สนับสนุนโดย  bk8

วิธีรักษาการนอนหลับ

การนอนหลับเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งและมีประชาชนทั่วไปเกือบ 30% ที่มีปัญหานี้ ซึ่งวิธีการรักษาอาการนี้นั้น ต้องมีการทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยหนึ่งเดือนขึ้นไป จะช่วยทำให้การนอนหลับกลับมาเป็นปรกติได้อีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องใช้ยานอนหลับช่วยแต่อย่างใด ซึ่งวิธีเหล่านี้เป็นวิธีธรรมชาติและปลอดภัยกว่าการใช้ยานอนหลับ ซึ่งจะมีอยู่ 15 วิธีดังนี้

การออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที หรือ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยทำให้การนอนหลับดีขึ้น แต่ไม่ควรออกกำลังกายหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน อย่างน้อยความเว้นช่วงก่อนการนอนอย่างน้อยสามชั่วโมง เพราะหากออกกำลังกายใกล้เวลานอนเกินไป จะทำให้ร่างกายตื่นตัวและการนอนไม่มีคุณภาพ

อย่าหลับตอนกลางวันหรือตอนเย็น

งดสูบบุหรี่ หรือเครื่องดื่มที่คาเฟอีน

อย่าทานอาหารเย็นหรือมื้อหนักก่อนเข้านอน ควรเว้นระยะก่อนเข้านอนอย่างน้อย สองชั่วโมง เพราะระบบย่อยจะทำงานหนัก และทำให้นอนไม่หลับ

ไม่ควรทำกิจกรรมใดที่ทำให้จิตใจได้รับการกระตุ้น เช่นดูหนังตื่นเต้น หรือคิดเรื่องเครียดๆ อย่าหลับไปพร้อมปัญหา เพราะจะทำให้กระตุ้นร่างกายและหลับไม่สนิท

งดเล่นอุปกรณ์มือถือ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง เพื่อปรับให้คลื่นสมองผ่อนคลายก่อนเข้านอน

พยายามจัดเวลาสำหรับผ่อนคลายทำจิตใจให้สงบก่อนเข้านอนอย่างน้อย 20 นาที

ปรับห้องนอนให้เหมาะสม มีอุณหภูมิที่พอดี ไม่เปิดไฟหรือโทรทัศน์ตอนนอน

เตียงนอนมีไว้สำหรับนอนหรือทำกิจกรรมทางเพศ อย่านอนอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ ถ้าเราฝึกสมองให้จำว่าเตียงมีไว้สำหรับนอน เมื่ออยู่บนเตียงความรู้สึกง่วงนอนจะเกิดง่ายขึ้น

เมื่อเอนตัวบนเตียงนอน ควรหยุดนิสัยคิดเรื่อยเปื่อยบนเตียงนอน ทำให้ผ่อนคลาย จะได้รับได้เต็มที่

ไม่ควรดื่มน้ำปริมาณมากๆ หลังอาหารเย็น และควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน เพราะการเข้าห้องน้ำกลางดึกจะทำให้รบกวนการนอนได้

หากนอนบนเตียงเป็นเวลา 30 นาทีแล้วยังไม่หลับ อย่าได้ฝืนหรือโกรธตัวเอง ให้ลุกออกจากเตียง หนังอ่านหนังสือ ฟังเพลงบรรเลงสบายๆ เมื่อง่วงแล้วค่อยกลับไปนอน

อย่าดูนาฬิกาบ่อย เพราะเป็นการกดดันตัวเอง

หาคู่นอนมีอาการนอนกรนหรือดิ้นอาจใช้ที่อุดหูช่วยก่อน ถ้าไม่ไหวหรือจำเป็นจริงอาจต้องแยกเตียงนอนหรือห้องนอน

การตื่นนอนควรตื่นให้ตรงเวลาทุกวัน ไม่ว่าจะได้นอนแคไหน เพราะการตื่นตรงเวลาจะช่วยให้วงจรการหลับและตื่นเข้าที่ และจะช่วยให้การนอนในคืนต่อไปดีขึ้น

ทั้งหมดนี้ควรทำอย่างน้อยหนึ่งเดือน และต่อเนื่องถึงหกเดือน คุณก็จะมีสุขภาพการนอนที่ดี

 

สนับสนุนโดย  alpha88 เครดิตฟรี

รวมเทคนิคในการลดน้ำหนัก แบบสุขภาพดี 

คิดว่าหลายๆ คน ที่ทำงานออฟฟิศ หรือ สาวๆ ออฟฟิศ มักจะเจอปัญหาเรื่องทำงานแล้วอ้วนขึ้น และหลายๆคนเลย ที่อยากจะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน วันนี้เราเลยรวบรวมเทคนิคมที่จะช่วยให้เพื่อนๆลดน้ำหนักได้ง่ายและสำเร็จเร็วขึ้นมาฝากกันละ 

ตั้งเป้าหมายให้ชัด และ เริ่มชั่งน้ำหนัก วัดสัดส่วน 

เพื่อนๆ หลายคนมักลืมข้อนี้ไปการที่เพื่อนๆ จะมีน้ำหนักในฝันได้ ก็ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดว่าตัวเองต้องการให้รูปร่าง น้ำหนักเป็นแบบไหน และที่สำคัญถ้าตั้งเป้าหมายแล้ว ก็ควรจะเริ่มชั่งน้ำหนัก และ วัดสัดส่วนตอนเริ่มต้นได้เลย

ปรับเปลี่ยน เวลานอนและตื่นให้ดี

เพื่อนๆ หลายๆคนอยากลดน้ำหนักแต่ไม่เคยปรับพฤติกรรมการตื่นนอน หรือ หลับเลย ซึ่งจริงๆการนอนดึกก็จะทำให้เพื่อนๆ อ้วนง่ายเพราะว่าการที่เรานอนน้อย โกรทฮอร์โมนก็จะหลั่งน้อย มีผลต่อการทำงานระบบเผาผลาญได้ไม่ดี และที่สำคัญหากเพื่อนๆ นอนตื่นสาย ก็หมดวันโดยที่ร่างกายเราไม่ได้เผาผลาญพลังงานตามที่ควรจะเป็น

-เปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่

การที่เพื่อนๆ จะมีสุขภาพที่ดี หรือ แม้แต่การลดน้ำหนักหรือลดไขมันนั้น เพื่อนๆ จำเป็นจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องการกินเลย เพราะว่าอาหารเป็นอะไรที่สำคัญและส่งผลต่อการลดน้ำนหักมากๆนะ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรจะเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ โดยการกินอาหารให้ครบ5 หมู่ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โปรตีนดี ไขมันดี ผักและผลไม้ ต่างๆ ให้ร่างกายได้สารอาหารครบถ้วน แต่ต้องควบคุมปริมาณด้วยนะคะ

คำนวญแคลอรี

การที่เพื่อนๆ อยากจะผอมให้ได้ไวขึ้นแนะนำว่าต้องหัดคำนวณ แคลอรี เพื่อให้เพื่อนๆ กินอาหารในแต่ละมื้อและแต่ละวันได้ไม่เกินความจำเป็นต่อร่างกายเกินไปและการที่คำนวณแคลอรีได้ จะเป็นการช่วยเพื่อนๆให้ลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้เร็วขึ้นด้วยนะคะ

ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะๆ 

เพื่อนๆ ควรจะดื่มน้ำเปล่าให้เยอะๆ ตลอดทั้งวัน เพราะว่าการดื่มน้ำนอกจากจะช่วยเรื่องผิวพรรณแล้ว ยังจะช่วยเรื่องกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีอีกด้วย และเทคนิดสำคัญของการดื่มน้ำคือ ค่อยดื่มเรื่อยๆ อย่าดื่มที่เดียวแบบเยอะๆ เกินไป และหากเพื่อนๆ หิวแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่า มันจะช่วยเรื่องลดความหิวของเพื่อนๆได้ด้วยนะ 

ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

การที่จะลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้เร็วนั้น คงจะหนีการออกกำลังกายไปไม่ได้นะ เพราะว่าการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันสะสมในร่างกายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญหากเพื่อนๆ ทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องจะทำให้การลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนหรือลดไขมัน ในร่ากงายนั้นเป็นไปได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ

 

สนับสนุนโดย  เซ็กซี่ บาคาร่าออนไลน์