ขับถ่ายยาก ปัญหาที่เราไม่ควรมองข้าม

ขับถ่ายยาก ปัญหาที่เราไม่ควรมองข้าม

ขับถ่าย ยากเป็นปัญหาหนัก และเป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายคนเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหานี้สร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตให้กับใครหลายคนเป็นอย่างมาก ทำให้เรารู้สึกอึดอัด และถ้าว่าปล่อยให้ท้องผูก ก็จะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่เพิ่มมากขึ้นไปอีก และเป็นปัญหาที่ร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งลำไส้เลยก็ได้ หากใครที่คิดว่าท้องผูกก็แค่กินยา อย่าคิดว่าหาท้องผูกกินยาแล้วจะหาย เพราะเราไม่รู้เลยว่าเป็นอาการท้องผูกธรรมดา หรือเป็นอาการท้องผูกเรื้อรังไปแล้ว หากไม่ได้รบการตรวจร่างกาย

ขับถ่ายยาก เพราะหากเป็นท้องผูกเรื้อรังก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้ นอกจากนี้แล้วอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดอาการท้องผูกก็คือ พฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรานั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องของการขับถ่ายจึงเป็นปัญหาที่เราทุกคนนั้นไม่ควรมองข้ามมันอย่างเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลได้มากต่อสุขภาพร่างกายของเรา ดังนั้น ปัญหาการขับถ่ายจะเป็นเรื่องง่าย หากคุณได้ลองทำตามวิธีที่เราได้นำมาฝากกัน ซึ่งก็เป็นวิธีง่าย ๆ ทั้งยังสามารถช่วยลดอาการท้องผูกได้อีกด้วย

ขับถ่ายให้เป็นเวลา การขับถ่ายให้เป็นเวลาจะช่วยให้ระบบการขับถ่ายของเราทำงานได้ดีมากขึ้นตลอดทั้งวัน และที่สำคัญเลยเราไม่ควรอั้นอุจจาระ เพราะจะส่งผลเสียต่อลำไส้ของเรา การขับถ่ายที่ดีคือการเลือกเวลาในการขับถ่าย และปรับเปลี่ยนท่าให้เหมาะสมเวลาเข้าห้องน้ำ หรือหากต้องการถ่ายคล่องมากขึ้น ก็ควรที่จะมีเก้าอี้เล็ก ๆ หนึ่งตัวไว้พักขา เรียนแบบทางนั่งยอง ๆ เพื่อให้การขับถ่ายของเรานั้นสะดวกมากขึ้น 

การรับประทานอาหาร การเลือกรับประทานอาหารประเภท ผักผลไม้ หรือธัญพืช จะสามารถเพิ่มใยอาหารให้แก่ร่างกาย และเป็นผลดีต่อระบบขับถ่ายของเรา เพราะอาหารที่มีกากใยอาหารสูงนั้น มักจะพบในผัก ผลไม้ ซึ่งอาหารประเภทนี้แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายและผิวพรรณของเราเท่านั้น ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นอาหารที่สามารถช่วยลดอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี หากใครที่มีปัญหาถ่ายไม่คล่อง และท้องผูกอยู่บ่อย ๆ ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนม เพราะนมจะมีขันสูงที่อาจส่งผลเสียต่อระบบขับถ่ายได้ 

การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือการออกกำลังกาย การทีเราจะช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย แน่นอนว่าต้องมีการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง เล่นโยคะ หรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยให้ร่างกาของเราได้เคลื่อนไหว เพียงทำวันละ 20-30 นาที จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเคลื่อนไหวลำไส้ให้ทำงานได้เป็นปกติอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  ชุดตรวจ hiv

พฤติกรรมแย่ ๆ ทำร้ายดวงตา

เมื่อแก่ขึ้นความเสื่อมโทรมต่าง ๆ ในร่างกายก็ตามมา ไม่ว่าจะอวัยวะส่วนใดก็เสื่อมโทรมลงอย่างแน่นอน ในทุก ๆ วันนี้อวัยวะที่มีการใช้งานบ่อย ๆ และสำคัญ หนึ่งในนั้นก็คงเป็นดวงตา บางคนดูแลดีดวงตาก็เสื่อมโทรมช้า แตกต่างกันขึ้นอยู่แต่กับละบุคคล รู้หรือไม่ว่า life style แย่ ๆ ส่งผลเสียต่อดวงตา วันนี้มาดูกันดีกว่าว่า พฤติกรรมแย่ ๆ ทำร้ายดวงตา life style แบบไหนบ้างที่รังควานดวงตาของพวกเรา

  1. ดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินความจำเป็น เนื่องจากว่าการดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากจะนำมาซึ่งการทำให้สมองแล้วก็ระบบประสาทเสื่อมได้ง่าย และก็ส่งผลทำให้เส้นประสาทต่าง ๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับดวงตาจะเกิดเสื่อมก่อนวัยอันควร
  2. ความประพฤติจนแบบสังคมก้มหน้าหรือการติดหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นติดโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือติดคอมพิวเตอร์ ถ้าเยอะเกินไปก็จะมีผลให้สายตาอ่อนเปลี้ยเพลียแรง นอกเหนือจากนั้นแสงสีฟ้า (Blue Light) จากจอก็ทำให้เกิดผลเสียกับจอประสาทตาได้ โดยจะเสื่อมเร็วขึ้นนั่นเอง
  3. รับประทานยาแก้โรคเครียด ยารักษาโรคซึมเศร้า แล้วก็ยาขับปัสสาวะ เพราะว่ายากลุ่มนี้เป็นยาที่มีผลต่อการควบคุมกล้ามเนื้อ โดยยิ่งไปกว่านั้นกคือที่อยู่บริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ระยะสายตายาวขึ้น ด้วยเหตุว่าสายตาไม่อาจจะหาจุดโฟกัสได้เหมือนปกติ
  4. คนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคตา อาทิเช่นโรคต้อหิน โรคต้อกระจก ฯลฯ
  5. ใช้ตัวช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตา ไม่ว่าจะเป็น การต่อวาดเทปกาวสองชั้น การใส่คอนแท็กต์เลนส์ โดยเครื่องไม้เครื่องมือพวกนี้เมื่อใช้ไปช่วงเวลานานจะมีผลต่อการควบคุมกล้ามเนื้อรอบดวงตาทำให้จะต้องจ้องหรือเขม่นดูมากจนเกินความจำเป็น และก็มีการกะระยะที่บกพร่อง ก็เลยเสนอแนะว่าไม่สมควรใช้อย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาที่ยาวนานต่อเนื่องกัน

แนวทางถนอมสายตา คุ้มครองป้องกันตาเสื่อมก่อนวัย

  1. สวมแว่นป้องกันแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกรองรังสียูวี ยิ่งไปกว่านี้ยังช่วยคุ้มครองป้องกันควันที่มีพิษหรือสารเคมีอันตรายที่เข้ามากระทบตาได้ในระดับหนึ่ง โดยชี้แนะให้เลือกระดับความมืดของฟิล์มแว่นตาดำให้เหมาะสมกับ lifestyle ของพวกเรา และก็ถ้าจะต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ทีมีสารต่าง ๆ ก็ควรใส่หน้ากากกันควันพิษไว้เสมอ
  2. ตรวจสายตาปีละครั้งเมื่อไปสู่วัย 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างพวก เบาหวาน มีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคเบาหวานขึ้นหน้าจอประสาทตา เรตินาเสื่อมได้ เพื่อหาวิธีรักษารวมทั้งคุ้มครองป้องกันสายตาไม่ให้เสื่อมก่อนวัย
  3. ทานอาหารบำรุงสายตา หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดที่มีส่วนช่วยสำหรับการบำรุงสายตาได้ สารสำคัญที่ช่วย ยกตัวอย่างเช่นomega-3 หรือสารสกัด Astaxanthin จากสาหร่ายสีแดง มีส่วนช่วยสำหรับการบำรุงสายตา

 

เมื่อทราบ. พฤติกรรมแย่ ๆ ทำร้ายดวงตา แบบนี้แล้ว อย่าลืมนำเอากลเม็ด รวมทั้งแนวทางดี ๆ พวกนี้ไปประยุกต์ในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

การนอนดึกส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร

ปัจจุบันการเพื่อที่จะให้ร่างกายมีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรน้อยอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่นั้นคงไม่มีใครทำได้อย่างแน่นอน เพราะเนื่องด้วยสังคมสมัยนี้เต็มไปด้วยชีวิตของการทำงาน จนไม่มีแม้แต่เวลานอนเลยก็ว่าได้ แต่รู้หรือไม่ว่า การนอนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อร่างกาย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยเสริมสร้างให้ร่างกาบของเรานั้นมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแต่สุขภาพกายเท่านั้น ยังส่งดีไปยังสุขภาพจิตของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่ก็เชื่อว่า หลายคนคงมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งในหน้าที่การงาน ครอบครัว หรืออื่น ๆ เพราบางคนอาจจะคิดว่าการนอนน้อยนั้นจะช่วยให้เราทำงานได้มากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว

การนอนเต็มอิ่มจะช่วยให้เรามีความคิดที่สร้างสรรค์มากกว่าคนอื่นอีกต่างหาก หาใครที่คิดว่าการที่เรานอนน้อยแล้วจะได้งานเยอะนั้นคุณคิดผิด เพราะนอนจากจะทำให้เรานอนดึกแล้ว ยังส่งผลเสียต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากอีกด้วย ดังนั้น วันนี้เราจะมายกตัวอย่างผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของเราเมื่อเรามีพฤติกรรมการนอนดึก

  • โรคอ้วน รู้หรือไม่ว่า การนอนดึกนั้นก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นนโรคอ้วนได้เช่นกัน โดยเฉพาะกับผู้หญิงอย่างเราเพราะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะเนื่องจากการนอนดึกแล้ว ก็จะมีส่วนในการทำให้พฤติกรรมการกินของเรานั้นเปลี่ยนไป ทำให้รู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนอนดึกมากแค่ไหน กินยิ่งหิวมากเท่านั้น ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ควรนอนก็ควรวางมือจากการทำสิ่งต่าง ๆ และเข้านอนให้ตรงเวลาจะดีที่สุด
  • ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต รู้หรือไม่ว่าเมื่อเรานอนดึกเป็นประจำ จะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้หลังการตื่น เพราะเมื่อเรานอนดึกเป็นประจำทุกวัน นาน ๆ ไปก็อาจส่งผลให้หลังการตื่นนอนของเรานั้นมีอารมณ์ที่ไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็น ซึมเศร้าง่าย มีความคิดเชิงลบมากกว่าบวก มีภาวะการวิตกกังวล เป็นต้น นอกจากจะส่งผลเสียไปยังสุขภาพจิตของเราแล้วก็อาจส่งผเลยไปยังสุขภาพร่างกายของเราได้เช่นกัน
  • มีริ้วรอย เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันอยู่แล้วว่า เมื่อเรานอนดึกจะเห็นได้เลยว่าร่างกายของเรานั้นจะดูไม่ดี ไม่มีสุขภาพ และรวมไปถึงเรื่องของผิวเราด้วย เมื่อไหร่ที่เรานอนดึกมาก ๆ นาน ๆ ไปจะทำให้ผิวของเราเกิดการเหี่ยวย่น และมีริ้วรอยขึ้นได้ง่ายนั่นเอง อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการเป็นสิวได้อีกด้วย ดังนั้น หากใครที่นอนดึกเป็นประจำก็จะสามารถสังเกตได้เลยว่าผิวดูไม่มีน้ำมีนวล และร่างกายก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟู ทั้งนี้ หากต้องการมีผิวที่มีสุขภาพดี รวมไปถึงร่างกายด้วยก็ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเต็มที่

 

 

สนับสนุนโดย    บาคาร่า sa

การที่เราง่วงนอนอยู่ตลอดเวลาสามารถที่จะแก้ได้อย่างไรบ้าง

ในการที่เราได้มีการใชชีวิตประจำวันอยู่นั้นอาการง่วงจะเป็นสิ่งที่เราได้พบแทบจะทั้งวันเลย ซึ่งไม่ว่าจะจะทำการนอนมามากเพียงใด เราก็จะมีการเกิดอาการง่วงนั้นอยู่เป็นประจำเลย ซึ่งถ้าเราจะคิดว่าอาการนี้เป็นอาการที่ปกติและสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่อาการง่วงนอนนี้เป็นอาการที่มีการส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรามาก และยังจะมีการส่งผลต่อ บุคลิก การงาน หรือชีวิตของเรานั้นมากเลย ซึ่งอาการนี้จะเกิดขึ้นจากการที่เราทำการนอนหลับพักผ่อนที่น้อยนั้นเอง หรือการที่เราทำการนอนหลับพักผ่อนมาทั้งคืนแล้ว อาการง่วงนอนนี้ก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยที่อาการง่วงนอนนี้นั้นจะมีการเกิดขึ้นจากสาเหตุดังนี้

  1. การที่เราทำการนอนดึกปนะจำ

การที่เราได้ทำการนอนดึกแล้วตื่นมานั้น จะทำให้ร่างกายของเรารู้สึกอ่อนเพลียมาก และทำให้เรารู้สึกง่วงอยู่ตลอดเวลานั้นเอง แต่ในการที่เราทำการนอนดึกและตื่นสายนั้น ก็ไม่ได้มีการช่วยทำให้เรารู้สึกหายง่วงได้เลย

  1. การที่เรามีสุขภาพจิตที่แย่

การที่เราได้มีอาการเบื่อ หรือไม่อยากที่จะทำการใช้ชีวิตประจำวันอะไรเลยนั้น ก็มีการส่งผลต่ออาการง่วงของเราด้วย เพราะว่าอาการเบื่อ หรือการที่เราไม่ได้มีสุขภาพจิตที่ดีนั้น จะทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียและไม่อยากที่จะมีการทำอะไรเลยด้วย

  1. การที่เราเกิดโรคบางอย่างขึ้น

อาการของโรคบางอย่างนั้นก็มีส่วนที่ทำให้เรานั้นง่วงนอนได้เช่นกัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลีย ง่วง เบื่อ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราได้มีโรคบ้างอย่างเกิดขึ้นก็ได้

ซึ่งในการที่เราจะทำการแก้ปัญหาอาการง่วงอยู่ตลอดนั้น จะมีวิธีในการแก้ไขปัญหาอยู่หลากหลายวิธีเลย โดยที่จะมีวิธีในการแก้ปัญหาอาการง่วงดังนี้

  1. การที่เราจะทำการนอนและตื่นนอนอย่างเป็นเวลามากขึ้น

การที่เราจะทำการนอนอย่างตรงเวลาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากเลย เพื่อที่จะทำให้เราไม่รู้สึกง่วงในตอนกลางวัน และเพื่อที่จะทำให้ร่างกายของเรานั้นชินในการนอนหลับพักผ่อน และทำให้ในตอนที่เราตื่นมาแล้วนั้นจะไม่รู้สึกง่วงระหว่างวันด้วย การกำหนดเวลาในการนอนหลับของเราจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก

  1. การที่เราจะทำการเปลี่ยนสภาพของห้องนอน

ห้องนอนเป็นห้องที่เราควรจะทำให้บรรยากาศของห้อง เหมาะกับการนอนหลับพักผ่อนมาก เพื่อที่ในการนอนหลับของเรานั้นจะสามารถที่จะทำได้ง่าย โดยที่เราควรจะดูที่แสงที่เข้ามาในห้องของเรา อุณหภูมิ และบรรยากาศ ให้เราสามารถที่จะนอนหลับได้ง่ายๆ

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์ เชื่อถือได้

ยาลดไขมันรู้ไว้ปลอดภัยกว่า

ซึ่งเราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับคอเลสเตอรอลว่าเมื่อไหร่ที่คุณจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาแน่ๆหมายความว่าคุณหมอจะแนะนำว่าจะต้องรับประทานยาเพราะว่าในตอนนี้มักจะสับสนกันว่าคอเลสเตอรอลสูงสรุปแล้วมันจำเป้นที่จะต้องรับประทานยาหรือเปล่าแบบนี้ตัวเลขเท่าไหร่ถึงจะทานยาและบางคนกินยาเข้าไปแล้วก็มีผลแทรกซ้อนได้ยินมามันค่อนข้างที่จะน่ากลัวไม่ขอกินยาได้ไหม

นอกจากนี้เราก็จะมาบอกว่าเมื่อไหร่แล้วที่จะแนะนำมากๆที่จะให้กินยามีอยู่ด้วยกันแบบเน้นๆไปเลยคือเมื่อก่อนสักประมาณปี2013มันก็ได้มีไกด์ไลน์ออกมาหรือข้อแนะนำว่าถ้าคอเลสเตอรอลมากกว่า200และตัวLDLคอเลสเตอรอลตัวที่นิสัยไม่ดีมากกว่า100แนะนำใหกินยาแล้วเพื่อลดระดับไขมันที่อยู่ในเลือด

ดังนั้นในตัวยาลดระดับไขมันในเลือดมันก็จะมีผลแทรกซ้อนต่างๆมากบ้างน้อยบ้างตามแต่ละคนตามแต่ละท่านเพราะฉะนั้นหลังๆแล้วนี่เขาก็จะพยามให้คุณกินยาเพื่อลดลงและจะต้องได้ผลมากที่สุดและเหมาะสมที่สุดไม่ใช่ว่ากินยาไปเรื่อยเราไม่จำเป็นต้องกินก็ไม่ต้องกิน

เนื่องจากนี้ก็ได้มีการสรุปผลออกมาล่าสุดในปี2018ได้มีการประชุมเอาคนนั้นมาประชุมเยอะแยะมากมายเขาก็ได้แบ่งออกมาที่มีความเสี่ยงสูงที่เราควรจะแนะนำว่าจะต้องกินยาเลยและลองดูว่าถ้าคุณเป็นคนในกลุ่มนี้แล้วยังไม่ได้รับยาอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวดูว่าแบบนี้มันน่ากลัวพอหรือยังหรือว่ามันมีลายละเอียดอะไรบ้างที่มีความจำเป้นที่จะต้องกินยาแล้ว

เพราะฉะนั้นแล้วคุณมีประวัตโรคหลอดเลือดต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเจ็บหน้าอกเล็กน้อยเจ็บหน้าอกมากแต่ได้รับการตรวจว่าหน้าจะเกี่ยวกับโรคโรคหัวใจและอันต่อมาคุณมีโรคหลอดเลือดสมองเคยปากเบี้ยวมือชามือขยับไม่ได้น้ำลายไหลแบบนี้เขาเรียกว่าเป็นแปปเดียวแล้วหายอยู่จริงๆตามืดบอดแล้วก็กลับมามองเห็นได้แบบนี้อาจจะต้องแนะนำให้กินยาในกลุ่มขอลดไขมันในเส้นเลือดหรือว่ากลุ่มที่ควรผ่าตัดรักษาหลอดเลือดต่างๆตามตัวตามร่างกายที่เกิดจากหลอดเลือดอุดตัน

ซึ่งเราขอแนะนำว่าให้คุณกินยาดไขมันในเส้นเลือดถ้าตัวไขมันไม่ดีตัวLDLเหล่านั้นไม่ดีมากกว่า70และมีอาการหรือว่ามีโรคที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้วคุณควรที่จะรับประทานยาลดไขมันในเส้นเลือดที่นี้เรามาดูต่อก็จะเป็นตัวของไขมันไม่ดีLDLที่มันมากกว่า190แนะนำให้กินยาลดไขมันในเส้นเลือดเราจะได้ประโยชน์มากกว่าโทษของมันที่เป็นอะไรเล็กๆน้อยๆจะได้ประโยชน์มากกว่า

 

สนับสนุนโดย    สล็อตjoker โอน ผ่าน วอ เลท ไม่มีขั้นต่ำ

ผลไม้ประเภทไหนบ้าง กินแล้วหุ่นดีผิวสวย

สมัยนี้ การดูแลสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากโรคของเรานั้นเต็มไปด้วยโรคภัยต่าง ๆ ฝุ่น ควัน มลพิษมากมายที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้ โดยเฉพาะเรื่องการดูแลผิว ซึ่งในสมัยนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่หันมาดูแลใสใจเรื่องของการดูแลผิวกันเป็นจำนวนมาก เพราะสภาพอากาศบ้านเรานั้นค่อนข้างที่จะมีแดดจัด จนอาจส่งผลเสียต่อผิวของเราได้

ดังนั้น การจะมีสุขภาพผิวที่ดีจากภายในสู่ภายนอกนั้น หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นมันอย่างไรดี จึงทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจขึ้นว่าตนเองนั้นจะดูแลผิวอย่างถูกวิธีหรือเปล่า การที่เราจะมีผิวที่ดี มีหุ่นที่สวยได้นั้น สิ่งสำคัญเลยก็คือ เกิดจากพฤติกรรมการกินของเรา

เพราะการที่ร่างกายได้รับสารอาหารเข้าไปแล้ว ระบบดูดซึมของร่างกายก็จะทำการดูซึมสารอาหารเพื่อไปเลี้ยงผิวของเรานั้นเอง อย่างไรก็ตาม คนเรามีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกันอยู่แล้ว แต่จะเลือกกินอย่างไรใหส่งผลต่อผิวพรรณ และรูปร่างที่สวยผอมของเราได้ วันนี้เรามีคำตอบค่ะ การที่เราจะมีสุขภาพผิวที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรง สวยผอม จะเริ่มต้นด้วยการเลือกกินอย่างไรไปดูกันค่ะ

  • ทับทิม หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในทับทิมนั้นอัดแน่นไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้ผิวของเรานั้นกระจ่างใส่ขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของหัวใจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้แล้วหากใครที่ดูแลเรื่องของผิวพรรณอยู่แนะนำให้ดื่มน้ำทับทิมเยอะ ๆ จะยิ่งช่วยให้ผิวของเรานั้นกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วทับทิมไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องของผิวเท่านั้น ยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หากรับประทานเป็นประจำทุกวัน ของบอกไว้เลยว่า นอกจากจะมีผิวที่สวยใสแล้ว ยังมีหุ่นที่สวยผอมพร้อมอวดอย่างแน่นอน
  • อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยนิยมปลูกในไทยสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าหายากเลยก็ว่าได้ อะโวคาโดเต็มไปด้วยสารอาหารจำพวกวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณให้แลดูมีสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ช่วยเรามีหุ่นที่สวยได้อีกด้วย
  • เสาวรส เรียกได้ว่าเป็นผลไม่ที่ใครหลาย ๆ คนชอบกันเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากมีรสชาติที่ค่อนข้างเปรี้ยว ทำให้ชื่นใจ จึงทำให้หลายคนติดใจ หัวใจหลักของเสาวรสคือ ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิว และปกป้องร่างกายจากสารพิษต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี  การรับประทาเสาวรสเป็นประจำจะช่วยให้ ผิวของเรานั้นดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ผิวดูเปล่งปลั่ง  ดูมีสุขภาพมากขึ้น และที่สำคัญ การรับประทานเสาวรสเป็นประจำไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องผิวเท่านั้น ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก ยิ่งถ้าใครอยู่ในช่วงลดน้ำหนักแนะนำเลยค่ะ

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19 ต้องทำอย่างไร 

          ปัจจุบันนี้โลกที่กำลังเป็นที่นิยมและเป็นที่หวาดกลัวกันมากที่สุดของคนไทยเราหรืออาจจะเป็นของคนทั่วทั้งโลกนั่นก็คือการติดเชื้อไวรัส covid-19  นั่นเองเพราะในขณะนี้การรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นยังไม่มียาชนิดไหนที่จะสามารถรักษาแบบหายขาดได้เพราะต้องทยอยรักษาไปเรื่อยๆจนกว่าอาการจะทุเลาลงไปเรื่อยๆซึ่งระหว่างที่ยังมีอาการของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่นั้นจะส่งผลทำให้สุขภาพร่างกายนั้นสุดโทรม และบางคนถ้าติดเชื้ออย่างรุนแรงนั้นก็อาจถึงแก่ความตายได้

          จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้เพราะไวรัสโควิด-19 นั้นมีความรุนแรงและมีการกลายพันธุ์มากขึ้นเพราะเมื่อเรามีการผลิตวัคซีนออกมาเพื่อที่จะกำจัดมันมันก็มีการพัฒนาตัวมันเองเช่นเดียวกันในการที่จะต่อสู้กับวัคซีนและลักษณะอาการของการติดเชื้อนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงการดูแลตัวเองให้ปลอดภัยและห่างไกลจากโควิค-19 ว่าเราควรจะต้องทำอย่างไรบ้างในสถานการณ์แบบนี้ 

        อย่างแรกเลยเราไม่ควรเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆที่เป็นสถานที่กลุ่มเสี่ยงหรือเป็นพื้นที่เสี่ยงหรือถ้าหากมีความจำเป็นต้องไปสถานที่เหล่านั้นจริงๆต้องมีการป้องกันตนเองอย่างดี โดยต้องมีการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเรียกได้ว่าถ้าหากเราอยู่นอกบ้านนั้นห้ามถอดหน้ากากอนามัยอย่างเด็ดขาด  ที่สำคัญหากเราจับสิ่งของเมื่อจับเสร็จเรียบร้อยแล้ว  มือที่เราจับสิ่งของนั้นมาเช็ดตามหน้าตาและปากของเราเพราะอาจจะทำให้เรานั้นจะไปโดนเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วนำเชื้อมาถูกผิวหนังของเราและซึมเข้าไปในร่างกายของเราได้นั่นเอง 

      ยังงานทุกครั้งที่มีการจับสิ่งของเสร็จเรียบร้อยแล้วเราควรจะรีบล้างมือด้วยการใช้สบู่ฟอกมือให้สะอาดหรือไม่ก็ต้องใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างทำความสะอาดมือนอกจากนี้เราไม่ควรที่จะเข้าใกล้คนที่มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดเช่นคนที่มีอาการจามหรือมีน้ำมูกไหลหรือคนที่ไอเพราะคนกลุ่มนี้อาจเป็นคนกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อไวรัสโควิตได้นั่นเอง

        นอกจากนี้การรับประทานอาหารในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นอาหารนอกบ้านหรือภายในบ้านนั้นควรจะต้องมีช้อนกลางเอาไว้สำหรับตักอาหารและควรกินอาหารที่มีการปรุงสุกใหม่ๆรวมถึงไม่พยายามกินของแปลกๆอย่างเช่นการนำสัตว์แปลกๆหรือสัตว์หายากมาปรุงอาหารและแน่นอนว่าเราควรจะศึกษาเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ให้เยอะๆถึงอาการของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 และวิธีป้องกันตนเองจะทำให้เราปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัส covid ได้อย่างแน่นอน 

 

 

สนับสนุนโดย.    สูตรหวยแม่นๆเข้าทุกงวด

ปัญหาสุขภาพผิว ของคนที่อายุ 40ขึ้นไป 

       ว่ากันว่าคนที่อายุมากขึ้นอะไรๆก็หย่อนคล้อยลงและทรุดโทรมไปตามกาลเวลาเช่นเดียวกับสุขภาพผิวของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะยิ่งอายุมากขึ้นความยืดหยุ่นของผิวหนังรวมถึงคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากร่างกายนั้นก็จะลดน้อยลงทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของผิวพรรณโดยตรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปแล้วเราก็มักจะเจอปัญหาเรื่องของผิวพรรณนั้นเสื่อมถอยผิวแห้งหยาบกร้านและหย่อนคล้อยไม่มีความยืดหยุ่นนั้นเอง

       นอกจากนี้เมื่อเราอายุมากขึ้นกระบวนการการทำงานของการผลัดเซลล์ผิวนั้นก็จะลดลงเช่นเดียวกันดังนั้นแทนที่การผลัดเซลล์ผิวใหม่จะทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพนั้นก็จะทำงานได้ช้าลงซึ่งมันจะมีผลต่อริ้วรอยของเรานั่นเองโดยถ้าเกิดว่ากระบวนการผลัดเซลล์ผิวนั้นช้าลงก็จะส่งผลทำให้เรามีริ้วรอยและจุดด่างดำรวมถึงมีฝ้าขึ้นตามตัวและตามใบหน้าเรียกได้ว่าผิวพรรณนั้นจะไม่สวยงามเปล่งปลั่งและไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอเหมือนกับแต่ก่อนนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของผิวพรรณไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสีผิวไม่สม่ำเสมอหรือแม้แต่ริ้วรอยต่างๆนั้นก็เกิดได้หลายสาเหตุเช่นเดียวกันนอกจากอายุเพิ่มมากขึ้นแล้วการทำงานฮอร์โมนในร่างกายรวมถึงการใช้สารเคมีต่างๆการไปตากแดดหรือแม้แต่การใช้งานเครื่องสำอางบางชนิดก็ส่งผลทำให้ผิวพรรณเราไม่สวยงามและหย่อนคล้อยได้เร็วเช่นเดียวกันนั่นเอง

          ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสาวส่วนใหญ่นั้นมักจะมีการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณโดยเฉพาะบำรุงผิวใต้บริเวณรอบดวงตาและผลิตภัณฑ์ที่ลดปัญหาการหย่อนคล้อยของผิวหรือการกินคอลลาเจนเสริมเพื่อต้องให้อาหารให้ผิวพรรณนั้นกลับมาเต่งตึงและสวยงามดังเดิมซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากว่าเราอายุยังน้อยๆบำรุงดูแลเหล่านี้ก็จะทำให้ผิวพรรณนั้นกลับมาดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วแต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้นการบำรุงถึงแม้จะมีการบำรุงมากแค่ไหนแต่ผลลัพธ์นั้นก็อาจจะทำให้ผิวพรรณนั้นกลับมากระจ่างใสและผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนเดิมนะได้ค่อนข้างยากเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะลดปัญหาการเกิดฝ้าหรือการเกิดปัญหาผิวด่างดำเร็วก่อนวัยอันควรแล้วแล้วก็สิ่งที่คุณทำมากที่สุดนั่นก็คือการที่คุณออกไปด้านนอกแล้วต้องไปเจอกับแสงแดดนั้นคุณควรจะต้องมีการใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันรังสีจากแสงแดดมาทำลายผิวพรรณของคุณเองและหลีกเลี่ยงการไปเจอกับแดดหรือว่าฝุ่นละอองต่างๆและที่สำคัญที่สุดก่อนนอนหรือแม้แต่ตอนตื่นเช้ามาหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งร่างกายและใบหน้าเพื่อเป็นการเสริมสารอาหารให้กับผิวของคุณเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    huaydee

รู้ไว้ถ้าไม่อยากเป็นมะเร็งปากมดลูก

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันอัตราการเกิดขึ้นของโรคมะเร็งนั้นถือว่าสูงมากและคนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันก็ล้วนอยู่ในสภาวะสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่รวมถึงการใช้ชีวิตในทุกวันค่อนข้างจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งอย่างมาก โดยเฉพาะในปัจจุบันมะเร็งที่พบเป็นจำนวนมากและมักจะเกิดขึ้นในเพศหญิงนั้นถือว่ามีจำนวนมากเลยทีเดียว นั่นก็คือโรคมะเร็งปากมดลูก

ซึ่งปัจจัยในการเกิดขึ้นนั้นก็มีหลากหลายปัจจัยและโดยส่วนใหญ่ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกมักจะมาจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรหรือช่วงวัยที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากในช่วงวันที่ยังไม่เหมาะแก่การมีเพศสัมพันธ์นั้นโดยเฉพาะในเพศหญิงก็เพราะว่าในช่วงวัยนี้นั้น ร่างกายและรวมถึงเยื่อบุของช่องคลอดหรือมดลูกนั้นยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และยังมีเยื่อบุที่บางเบาอยู่ ทำให้อาจจะเกิดการติดเชื้อได้และเมื่อมดลูกเกิดการติดเชื้อแล้วนั้น ไม่สามารถที่จะกำจัดเชื้ออกไปได้เชื้อก็จะเกิดการกระจายตัวและสะสมจนเป็นเชื้อมะเร็งในที่สุด

กาตรวจเพื่อคัดกรองถือว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ที่ติดเชื้อนั้นสามารถรู้ได้อย่างรวดเร็วและทำให้การรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกนั้นสามารถรักษาได้อย่างทันถ่วงทีรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมากนัก ซึ่งการตรวจหามะเร็งปากมดลูกนั้นสามารถทำได้

โดยการตรวจแป๊ปสเมียร์ เป็นการตรวจค้นเพื่อหาความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นกับปากมดลูกซึ่งเป็นวิธีการตรวจทางเซลล์วิทยา ซึ่งเป็นการเก็บเซลล์จากปกมดลูกจากนั้นก็ส่งเข้าห้องแล็ปและตรวจเพ่อหาความผิดปกติหรือเซลล์ที่อาจจะสามารถพัฒนาไปเป้ฯเชื้อมะเร็งได้นั่นเอง

รวมถึงการตรวจหาเชื้อโมเลกุลหรือการตรวจหา HPV ซึ่งในการตรวจนั้นก็จะเป็นการเก็บตัวอย่างและมีการส่งตรวจแบบเดียวกันกับการตรวจหาเชื้อมะเร็งหรือการตรวจแบบแป๊ปเมียร์ ซึ่งอาจจะสามารถตรวจในคราวเดียวกันได้การตรวจนั้นจะเป็นการป้ายปากมดลูกด้วยน้ำส้มสายชูเพื่อดูถึงความผิดปกติขิงปากมดลูกที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งการตรวจคัดการองมะเร็งปากมดลูกนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยในปัจจุบันมีการให้ความสำคัญในเรื่องของมะเร็งปากมดลูกมากพอสมควร

ทำให้การตรวจดเพื่อคดกรองมะเร็งปากมดลูกนั้นมีทั้งการตรวจแบบฟรีและแบบเสียเงิน โดยการตรวจเพื่อคัดกรองนั้นควรมีการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง นอกจากการตรวจคัดกรองแล้ว การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก ก็เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อีกทางหนึ่ง แต่ถ้าหากมีการป้องกันด้วยการฉีดวัควีนก่อนมีเพศสัมพันธืนั้นก็จะช่วยทำให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้อย่างดีเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.    สูตรหวยยี่กี หวยดี

สุขภาพหลังวัยเกษียร

สุขภาพไม่ว่าจะช่วงวัยไหนก็ถือว่าเป็นเร่องที่สำคัญและควรใส่ใจดูแลรักษาอยู่เสมอ และสำหรับสุขภาพในช่วงวัยหลังเกษียรนั้นก็ถือว่าเป็นช่วงที่ต้องให้ความสำคัญและมีการดูแลทั้งการดูแลด้วยตัวเองและจากคนรอบข้างด้วย เพราะคนในช่วงวัยเกษียรโดยส่วนใหญ่อายุก็จะเฉลี่ยอยู่ที่ 55-65 ปีซึ่งก็แล้วแต่บุคคลออกไป

สุขภาพหลังวัยเกษียรนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ถูกสะสมมาตั้งแต่ในช่วงวัยเด็ก วัยรุ่น จนกระทั่งวัยทำงานและมาสู่ในวัยเกษียรนั่นเอง สุขภาพจะดีหรือไม่ หรือเป็นไปในทิศทางใด การทำงานในช่วงวัยทำงานนั้นก็สามารถเป้นสิ่งที่บ่งบอกสุขภาพในวัยเกษียรได้ มาว่าจะเป็นกรทำงานหนักหลังวัยเกษียรโดยส่วนใหญ่ก็จะมีร่างกายที่ทรุดโทรมและอ่อนล้าง่าย

เนื่องจากในช่วงก่อนนั้นได้ทำงานหรือใช้ร่างกายมาอย่างหนักนั่นเองและคนที่ทำงานสบายหรือไม่ได้มีการใช้ร่างกายอย่างหนักนั้นหลังวัยเกษียรแล้วสุขภาพร่างกายก็อาจจะยังแข็งแรงอยู่นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามการทำงานก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีทั้งหมดว่าสุขภาพร่างกายนั้นจะเป็นอย่างไร มาดูกันว่าปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของสุขภาพหลังวัยเกษียรนั้นมีอะไรบ้างและมีการแก้ไขรักษาอย่างไรเพื่อให้ร่างกายและสุขภาพนั้นสามารถมีอายุอยู่ได้ยาวนาน

กระดูกและข้อ ต้องยอมรับเลยว่าถึงแม้จะไม่ได้มีการทำงานอย่างหนักในช่วงวัยก่อนเกษียรนั้น แต่สำหรับตนช่วงวัยนี้ต่างก็พบปัญหากระดูกและข้อทั้งสิ้น กระดูและข้อที่มีความเสื่อมจึงอาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดในบางครั้ง หรือบางคนก็เกิดกระปวดและเจ็บแบบเรื้อรังก็มี ซึ่งก็เกิดมาจากความเสื่อมที่มาตามอายุไขนั่นเอง ดังนั้นแล้วสำหรับคนในวัยหลังเกษียรเมื่อพบว่ามีอาการเหล่านี้ทางที่ดีควจะไปพบแพทย์เพื่อดูว่าควรจะต้องรักษาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเป็นอาการเรื้อรังเพราะอาการเรื้อรังที่เกี่ยวกับกระดูและข้อนั้นถือว่าเป้นปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่ง

ที่รักษายากเพราะร่างกายจะต้องมีการขยับอยู่ตลอดเวลานั่นเอง และควจะพักกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวมากเช่นการเดิน การวิ่ง ในช่วงวัยนี้ก็อาจจะต้องเลี่ยงกิจกรรมเหล่านี้ไปบ้างเมื่อมีอาการหรือมีปัญหากับกระดูกและข้อ

อาการเจ็บป่วยออดแอด แน่นอนว่าพบได้ทั่วไปและยังอาจจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงวัยก่อนเกษียรก็ได้แต่อาการอาจจะมาเพิ่มขึ้นในช่วงวัยหลังเกษียรนั่นเอง การปวดออดแอดนั้นส่วนหนึ่งมาจากสุขภาพที่เสื่อมโทรมลงทำให้ภูมิคุ้มกันนั้นลดลงและเกิดการป่วยได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงก็สามารถที่จะทำให้เกิดอาการป่วยเล็กน้อยได้ ก็ถือได้ว่าเป็นปัญหาอย่างมากของคนในช่วงวัยนี้ ก็อาจจะต้องพบแพทย์กันเป็นประจำเพื่อความแน่นใจว่าไม่ได้เป็นอะไรที่ร้ายแรง

โรคร้ายที่อาจจะกำเริบ ถือว่าพบมากเลยทีเดียวในช่วงวัยนี้ เพราะเป้นช่วงวัยที่ภูมิต้านทานร่างกายต่ำลงและเมื่อพักผ่อนจากการเกษียรไปสักระยะแล้วอาการเหล่านี้มักแสดงออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะเป้น เบาหวาน มะเร็งเป็นต้น อย่างไรก็ตามถ้าหากรู้เร็วและรักษาอย่างถูกต้องก็จะทำให้สุขภาพหลังเกษียรนั้นเป็นไปอย่างดีและราบรื่น

 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยฮานอย