Category Archive : สุขภาพทั่วไป

7ข้อที่ทำให้เรานั้นมีปัญหาในการนอน

ความเครียดนี่แหละมันจะมีผลมากเลยทีเดียวกับเรื่องของการนอนและมันจะมีปัจจัยอะไรกันบ้างล่ะที่มันจะมีมีผลทำให้เรานั้นจะนอนไม่หลับซึ่งเราจะมาอธิบายให้ฟังประมาณ5-6ข้อก็แล้วกัน

หนึ่ง ปัจจัยที่จะส่งผลต่อการนอนหลับก็คือแสง ไม่ว่าจะเป็นแสงของดวงอาทิตย์หรือแสงจากมือถือจากคอมพิวเตอร์มันมีผลต่อการนอนหลับอย่างแน่นอน

สอง เรื่องของอาหาร ซึ่งอาหารที่มีผลกับการนอนมีอะไรบ้างอะไรที่มันมีผลนี่มันฟังดูแปลกเรามักจะชอบกินน้ำตาลนี่แหละมันมีผลกับการนอนเกลือมีผลกับการนอน อาหารจังค์ฟู้ด หรือมันๆทอดๆมีผลกับการนอนและเดี๋ยวเราจะกลับมาในตอนท้ายซึ่งเราได้มีเคล็ดลับว่าการนอนอย่างไรจะชะลอวัยไกลโรค

สาม เรื่องของน้ำหรือว่าของเหลวที่เรานั้นได้รับประทานเข้าไปถ้าหากว่าเรานั้นรับประทานน้ำเข้าไปเยอะเราก็จะปัสสาวะเยอะถ้าเรารับประทานน้ำหวานเราก็ยิ่งปัสสาวะมากถ้าเราทานน้ำหรือว่าอาหารที่มีโซเดียมหรือมีเกลือเยอะเราก็ปัสสาวะบ่อยอันนี้มันก็จะมีผลกับการนอนแน่นอนบางคนกำลังหลับลึกๆแต่ดันมาตื่นปัสสาวะจะต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆแบบนี้มันอาจจะทำให้คุณภาพในการนอนเป็นอย่างไรมันก็จะไม่ดี

สี่ เรื่องสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรามีผลกับการนอนแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงเรื่องของอุณหภูมิหนาวเกิดร้อนเกินเรื่องเสียงเสียงดังเปิดทีวีนอนเปิดเสียงดังๆนอนเปิดวิทยุนอนย่อมไม่ดีอย่างแน่นอนนี่มันก็คือเรื่องของสิ่งแวดล้อม

ห้า เรื่องของที่มีผลหรือเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนก็คือเรื่องอารมณ์เรื่องอารมณ์นั้นมันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความเครียดเพราะความเครียดนั้นเป็นบ่อเกิดของการนอนหลับมันไม่มีคุณภาพเดี๋ยวเราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันว่ามันมีวิทยาศาสตร์รองรับไหมฮอร์โมนตัวไหนที่ทำให้ความเครียดนี้ทำให้การนอนของเราไม่ดี

หก เรื่องของโรคภัยไข้เจ็บประจำตัวที่มันคอยทำให้ตัวเรานั้นหลับไม่ดีเช่นโรคะไรโรคอ้วนก็คือโรคอ้วนนั้นนี่เป็นคอใหญ่เลยไขมันเยอะมากนอนหลับแล้วเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอโรคต่างๆนั้นมันสำคัญมาก

เจ็ด  เรื่องของพันธุกรรม ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถตรวจรหัสพันธุกรรมได้ใช่ไหมอย่างเช่นรหัสพันธุกรรมโปรตีนที่ชื่อperหรือว่าcryถ้าได้มีการกลายพัันธ์ของทางด้านรหัสพันธุกรรมเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดโรคนอนไม่หลับโดยพันธุกรรมเพราะฉะนั้นในบางครั้งเองมนุษย์เราก็สร้างเรื่องการนอนหลับไม่ดีขึ้นมาเองหรือบางครั้งนั้นมันก็อาจจะเกิดขึ้นมาจากพันธุกรรมด้วยเราจะต้งมีองค์ประกอบอยู่หลายอย่างมาประเมิน

 

 

สนับสนุนโดย  next88 pc

อาหารที่ทำให้เราแก่ขึ้นหากเรากินในปริมาณมาก

  ความแก่ใครๆก็คงไม่อยากได้แต่ใช่ว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะอย่างไรแล้วสุดท้ายทุกคนก็ต้องแก่แต่ความแก่สามารถที่จะชะลอลงได้หากเราเลือกดูแลคุณเองทั้งออกกำลังกาย  การพักผ่อนที่เพียงพอ รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายแต่คนเราส่วนใหญ่มักจะชื่นชอบอาหารที่มีผลเสียต่อร่างกายเพราะมันจะอร่อยมากกว่าเรามาดูกันว่าอาหารที่หากกินในปริมาณมากๆแล้วจะทำให้เราแก่เร็วขึ้นมีอะไรบ้าง 

อย่างแรกเลยคงหนีไม่พ้นกาแฟซึ่งเชื่อว่าใครๆหลายๆคนก็คงรู้กันดีว่าหากดื่มกาแฟในปริมาณมากๆจะทำให้เกิดความแก่ได้เร็วขึ้นเพราะกาแฟจะมีผลของการกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาส่งผลให้เหงื่อออกจากร่างกายนั้นก็คือการขับน้ำออกจากร่างกายดังนั้นเมื่อมีน้ำออกจากร่างกายก็จะทำให้ผิวของเราเหี่ยวยวย่นซึ่งส่งผลให้เราแก่นั่นเอง 

แอลกอฮอล์เชื่อว่าหลายๆคนก็คงรู้อีกเช่นเดียวกันว่าใครที่ติดแอลกอฮอล์เราจะเห็นว่าร่างกายของเขาจะทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็วและแก่ลงมากกว่าคนที่รักสุขภาพด้วยการไม่ดื่มแอลกอฮอล์แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติคล้ายๆกับกาแฟนั่นก็คือการดูดน้ำในร่างกาย หากใครที่กินแอลกอฮอล์ก็จะเห็นว่าตนเองจะมีลักษณะของอาการบวมหรือบางคน

ก็จะมีเป็นจุดแดงๆนั่นก็เพราะว่าแอลกอฮอล์จะมีผลในการ คอลลาเจนในร่างกายจับตัวช้าลงซึ่งเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคอลลาเจนมีส่วนในเรื่องของการทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลและสวยงามไม่เหี่ยวย่นดังนั้นการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากก็มีผลเสียทำให้เราแก่เร็วขึ้นเช่นเดียวกัน 

น้ำอัดลมน้ำที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่มักจะชอบดื่มเพราะว่าช่วยดับกระหายคลายร้อนกินแล้วอร่อยกว่าน้ำเปล่าเป็นอย่างมากแต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำอัดลมนี้มีอันตรายต่อผิวพรรณของคุณเป็นอย่างมากและยังส่งผลให้คุณแก่เร็วอีกด้วยท่อน้ำอัดลมจะทำให้คุณรู้สึกถึงอาการของการขาดน้ำและยังมีน้ำตาลเป็นจำนวนมากทำให้คุณทั้งแก่ทั้งอ้วน 

อาหารที่เป็นอาหารทอดไม่ว่าจะเป็นไก่ทอดหมูทอดอะไรก็แล้วแต่ที่ใช้น้ำมันในการทอดรั้วจะทำให้การจับตัวกันของคอลลาเจนใต้ผิวหนังของคุณจับตัวกันได้ช้าลงกว่าเดิมซึ่งมีผลสะท้อนมาถึงผิวพรรณของเราว่าจะไม่สวยแต่งต่างและยังมีรอยย่นให้เห็นอีกด้วยที่สำคัญของทอดก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราอ้วนดังนั้นหากไม่อยากแก่และไม่อยากอ้วนควรงดอาหารประเภททอดลง

เชื่อไหมว่ากินกาแฟตอน 11:00 น. จะเป็นเวลาที่ดีที่สุด 

 กาแฟคือเครื่องดื่มที่ใครหลายๆคนโปรดปรานไม่ว่าจะดื่มยามเช้ายามสายหรือยามบ่ายคุณเคยคิดไหมว่าการดื่มกาแฟแต่ละช่วงเวลานั้นรสชาติของกาแฟจะแตกต่างกันออกไปแล้วคุณรู้ไหมว่าการดื่มกาแฟช่วงเวลาไหนเป็นช่วงที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับคอกาแฟอย่างเราแน่นอนเขาว่าตามสถิติที่มีการสำรวจกันมาแล้วนั้นการดื่มกาแฟช่วงที่เหมาะสมที่สุดและดีที่สุดคนเราควรจะดื่มกาแฟในช่วงเวลาประมาณ 11:00 นเนื่องจากว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังต้องการ

การตื่นตัวเพื่อที่จะทำงานการที่เราดื่มกาแฟในช่วงเวลาเช้าจนเกินไปนั้นจะทำให้เราอิ่มและมีผลให้เราไม่ทานอาหารเช้าซึ่งจะไม่ดีต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างยิ่งดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงเช้าโดยหันมาทานอาหารเช้าแทนเพราะจะให้พลังงานกับร่างกายในการต่อสู้กับกิจกรรมในแต่ละวันของเราได้ตลอดทั้งวัน

โดยเราหันมาทานกาแฟในช่วงเวลา 11:00 น แผนการกินในช่วงเช้าดีกว่าเพราะช่วงเวลานี้เราจะสามารถรับรู้ถึงรสชาติของกาแฟได้ดีที่สุด เนื่องจากการที่เราดื่มกาแฟช่วง 11:00 นคือการที่เราดื่มกาแฟนอกบ้านดังนั้นสถานที่ที่เราเลือกไปนั่งในการดื่มกาแฟจะมีผลต่อความรู้สึกของเราทำให้เราได้รับความรู้สึกดื่มด่ำกับบรรยากาศและทำให้รสชาติของกาแฟของเราดีขึ้นในขณะเดียวกันหากเราดื่มกาแฟในช่วงเช้าซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราเร่งรีบเราจะไม่มีเวลาในการที่จะมาดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟหรือมารับรู้ความรู้สึกว่ากาแฟของเรานั้นหอมหวานมากมายแค่ไหน

เพราะเราต้องรีบเร่งในการดื่มและรีบออกจากบ้านไปทำงานส่วนการทานกาแฟในช่วงเย็นนั้นจะมีผลทำให้ร่างกายของเราตื่นตัวและไม่นอนหลับในช่วงเวลากลางคืนซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกายของเราเช่นเดียวกันดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงมักจะไม่ทานกาแฟในช่วงกลางคืนกันเพราะจะทำให้นอนไม่หลับและตื่นเช้ามาจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ซึ่งจะเห็นได้ว่าตามข้อมูลที่กล่าวมาแล้วนั้นการทานกาแฟในช่วงเวลากลางวันหรือประมาณ 11:00 น.

นั้นถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายของคนเราที่จะสามารถรับรสกาแฟได้และได้รับประโยชน์จากการทานกาแฟสูงสุดเนื่องจากในช่วงเวลากลางวันเราอาจจะเริ่มง่วงหรือเริ่มเพลีย เมื่อทานกาแฟเข้าไปก็จะไปกระตุ้นทำให้สมองของเราตื่นตัวและสามารถทำงานได้และฤทธิ์ของ กาแฟก็จะจบลงในช่วงเวลาเย็นซึ่งเมื่อกลับถึงบ้านเราก็สามารถนอนหลับพักผ่อนได้โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวลใจว่าในช่วงเวลากลางคืนเราจะนอนไม่หลับซึ่งจะทำให้เราไม่เกิดความเพลียในเช้าของวันต่อมา

ความรู้ด้านสุขภาพโรคไขมันพองตับ

วันนี้เราจะมาพูดถึงกินอยู่อย่างไรให้ห่างไกลจากไขมันพอกตับ เราคิดว่าเรื่องนี้จะเป็ฯเรื่องที่น่าสนใจของใครหลายๆท่านแต่อย่างจะเริ่มต้นอย่างแรกเลยก็คือคุณนั้นรู้จัดกับไขมันพองตับหรือยังว่ามันคืออะไร

ไขมันพองตับนั้นเป็นโรคที่เรียกว่าเพราะพิษในปัจจุบันเจอเยอะมากหลายๆครั้งไม่จำเป็นจะต้องมีอาการ ไขมันพองตับถ้าจะพูดโดยทั่วๆไปก็จะแบ่งคาวๆเป็นอย่างแรกเลยก็คือ ไขมันพองตับที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์หรือจากการดื่มสุรา อย่างที่2 ก็อาจจะเกิดจากการที่กินอยู่ที่ปริมาณที่เยอะจนเกินไปหรือไม่เหมาะสมหรือสัดส่วนไม่เหมาะสมในความสำคัญของโรคนี้เราคงจะต้องรู้ก่อนว่าโรคเหล่านี้เป็นโรคภายมืดที่มันค่อยๆเข้ามาทำร้ายตับของเราทีละน้อยๆที่นี่เราก็อยากจะให้ดูว่าไขมันพองตับนั้นมันจะเป็นอย่างไร

ซึ่งตับของมนุษย์นั้นจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนทางด้านขวานั้นจะใหญ่กว่าและส่วนด้านซ้ายนั้นจะเล็กกว่า ซึ่งตับโดยปกติของเราแล้วนั้นจะมีลักษณะค่อนข้างเรียบๆจะมีลักษณะสีน้ำตาลอ่อนๆมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากจะอยู่ทางด้านทางช่องท้องทางด้านขวาและหนึ่งในหน้าที่ของตับเลยก็คือเรื่องของการเป็นโรคโกดังการที่มีโกดังเก็บเพื่อที่เรานั้นจะต้องการใช้พลังงานฉุกเฉินตับจะได้ดึงเอาพลังงานออกมาใช้ได้อย่างเพียงพอให้ได้ทันที

เพราะฉะนั้นมันก็จะเก็บเอาอาหารเอาไว้ที่นี้ในการเก็บนั้นทำไมจะต้องเก็บไว้เป็นไขมัน ก่อนอื่นเลยเราจะต้องเข้าใจก่อนว่าอันนี้มันเป็นกระบวนการวิวัฒนาการของร่างกายมนุษย์ถ้าเราเก็บเป็นโปรตีนหรือเราจะเก็บเป็นแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตซึ่งมันเก็บได้มั้ยมันสามารถเก็บได้แต่ถ้าเก็บเป็นไขมันมันคุ้มค่า เพราะใน1กรัมของไขมันนั้นมันให้พลังงาน9แคลอรี่ในขณะที่ร่างกายเราเก็บเป็นโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรตก็จะให้แค่เพียง4แคลอรี่ฉะนั้นมันไม่คุ้นเราจึงต้องเก็บเป็นไขมันดีกว่าแต่ในการเก็บนั้นถ้าเก็บมากไปก็จะเกิดปัญหา ตับเองก็จะมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาตัวเองในเวลาเก็บมันก็จะเก็บเข้าไปเรื่อยๆ

เผื่อว่าวันไหนที่จะต้องใช้พลังงานเร็วหรือฉุกเฉินตับก็จะนำเอาตรงที่นั้นเอาออกมาใช้แต่ในการเก็บโดยที่ไม่ได้นำเอาออกมาใช้เยอะเกินไปนี่ก็คือเชื้อโรคตับนั้นก็จะพยายามปรับตัวเลย 1ตับนั้นจะขยายขนาดขึ้นฉะนั้นในไขมันพองตับก็จะมาพร้อมกับตับที่ใหญ่ขึ้นพอเก็บเยอะเข้าๆซึ่งมันได้เกินกว่าความสามารถของตับที่จะเก็บเอาไว้ได้แล้วตรงนี้แล้วนั้นร่างกายเราเองจะเป็นตัวบอกว่าไม่ดีแล้ว

 

สนับสนุนโดย  rb88

ข้อควรรู้หากจะกินยาเลื่อนประจำเดือน

               สำหรับผู้หญิงทุกคนนั้น เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธ์ก็จะเริ่มมีประจำเดือน โดยส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 12 ขวบ แต่บางคนหากร่างกายมีการพัฒนาเจริญเติบโตเร็วก็อาจจะมีประจำเดือนได้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ ซึ่งบางคนอายุประมาณ 10-11 ขวบก็สามารถมีประจำเดือนได้แล้ว 

    สำหรับสาวสาวแล้วการมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่ทรมานมาก เพราะบางคนมีอาการปวดท้องรุนแรงจนไม่สามารถทำงานได้ และบางคนก็มีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวอยู่ตลอดเวลา จนทำให้มีปัญหากับคนรอบข้างได้บ่อยบ่อยยามเมื่อมีประจำเดือน  ประจำเดือนไม่ได้มีแค่เพียงปัญหาแค่ที่กล่าวมาแล้วเท่านั้น หลายคนมักจะพบปัญหาว่านัดกับเพื่อนไปเที่ยวทะเล แต่กลับมีประจำเดือนมาช่วงเวลานั้นพอดี ทำให้พลาดการเล่นน้ำทะเลกับเพื่อนเพื่อนเลย ดังนั้นสาวสาวหลายหลายคนจึงต้องหาตัวช่วยในการแก้ปัญหาเวลาไม่อยากให้ประจำเดือนมาในช่วงที่เราไม่สะดวก  ซึ่งวิธีการนั้นก็ต้องเป็นการพึงยาเลือนประจำเดือนนั่นเอง

     เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักยาเลือนประจำเดือนมาบ้างแล้ว และบางคนอาจจะเคยกินยาชนิดนี้ ยาเลื่อนประจำเดือนเป็นยาที่เอาไว้ให้หญิงสาวที่มีประจำเดือนได้ทานเพื่อเลื่อนวันการมีประจำเดือนออกไป  สำหรับการกินยาเลื่อนประจำเดือนนั้นเป็นวิธีการที่ใครใครก็ทำกันอย่างแพร่หลาย เพราะหลายครั้งประจำเดือนมักจะมาในช่วงที่เราไม่สะดวกดังนั้นทางเลือกที่จะตัดปัญหาประจำเดือนมากวนใจก็คือการกินยา ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าวิธีนี้เป็นวิธีการที่ฝืนธรรมชาติดของการมีประจำเดือนก็ตาม แต่อะไรทีไม่ใช่ธรรมชาติย่อมมีผลเสียตามมาเสมอกันกินยาเลื่อนประจำเดือนก็เช่นเดียวกัน เรามาดูกันว่ายาเลื่อนประจำเดือนมีผลเสียต่อตัวเอาอย่างไร

  • สำหรับหญิงที่กำลังให้นมบุตรไม่ควรกินยาเลื่อนประจำเดือน เพราะเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า เมื่อแม่กินอะไรเข้าไปลูกจะได้รับสารอาหารตามที่แม่กินผ่านน้ำนมของแม่ ดังนั้น หากคุณแม่ที่ยังต้องให้นมบุตรมากินยาเลื่อนประจำเดือนจะมีผลให้ยาผสมไปกับนมและลูกจะได้รับยาเลื่อนประจำเดือนเข้าไปในร่างกายได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายของเด็กทำงานผิดปกติได้เช่นกัน
  • สำหรับใครก็ตามที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะกินยาเลือนประจำเดือนเพราะมีความเสี่ยงที่สูงมากที่ยาจะไปทำปฎิกิริยากับหลอดเลือด มีผลทำให้เส้นเลือดอุดตันได้  เช่นเดียวกันยาเลื่อนประจำเดือนจะมีผลกับอวัยวะภายในดังนั้นหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคตับก็ไม่ควรทีจะกินยาเลื่อนประจำเดือนนี้เช่นเดียวกัน

และหากใครที่กินยาเลือนประจำเดือนไปแล้ว ครบหนึ่งอาทิตย์แล้วประจำเดือนก็ยังไม่มา ต้องไปปรึกษาแพทย์ทันที

 

สนับสนุนมาจาก  แทงบอลออนไลน์2020

นอนแบบไหนคือการนอนหลับที่สนิทจริงๆ

ตามปกติแล้วมนุษย์เราทุกคนบางทีอาจจะนอน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และก็ใช้เวลาสำหรับในการ “ฝัน” เฉลี่ยในแต่ละคืนราว 2 ชั่วโมง อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีทั้งฝันดีจนไม่ต้องการตื่น ฝันร้ายจนตื่นมาพร้อมกับเหงื่อที่แตกพลั่กไปทั่วร่างกาย หรือฝันที่เนื้อเรื่องมั่วซั่วจนกระทั่งจับต้นชนปลายไม่ถูก

แต่ว่าที่บางคนรู้สึกว่า คืนไหนที่ไม่ได้ฝันเลย แสดงว่าพวกเราหลับสนิทดีสุดๆที่จริงแล้วเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า ?

“ไม่ฝัน” แสดงว่า “นอนหลับสนิท” ?

อันที่จริงแล้วมนุษย์เราฝันขณะกำลังหลับทุกคืน ย้ำว่าทุกคืน เพียงแต่ในหลายๆคืนคุณอาจจะจำไม่ได้ว่าฝัน ฝันไหนที่พวกเราจำได้ เป็นฝันที่พวกเราตื่นในช่วงเวลาที่พวกเรากำลังฝันไปกลางเรื่องบางครั้งอาจจะเป็นช่วงที่เพิ่งจะเข้านอนได้ไม่นาน ช่วงเวลากลางดึก หรือตอนกำลังจะรุ่งเช้า ถ้าหากคืนไหนที่พวกเรามีความคิดว่าพวกเราไม่ได้ฝันเลย อาจเป็นเพราะพวกเรานอนหลับๆตื่นๆไม่ได้นอนหลับยาวๆกระทั่งทำให้เกิดความฝันมากยิ่งกว่า

ทำไมเราถึง “ฝัน” ?

การนอนหลับของมนุษย์มักจะฝันอยู่เป็นประจำ เป็นกระบวนการทางสมองที่ทำงานขณะที่กำลังหลับ ใน 1 คืนพวกเราไม่ได้ฝันเพียงแค่เรื่องเดียว โดยเฉลี่ยสุดแต่ละคืนเราอาจฝันได้มากถึง 4-5 เรื่อง แต่ว่าพวกเราชอบจำความฝันได้ไม่หมดทุกเรื่อง มักจะจำเรื่องสุดท้ายที่ฝันได้เพราะเป็นช่วยใกล้จะตื่นเยอะที่สุด บางบุคคลฝันเป็นภาพสี บางบุคคลอาจฝันเป็นภาพขาวดำ โดยทฤษฎีแล้วไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด

สาเหตุที่พวกเราฝันยังไม่อาจจะเจาะจงได้อย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าความฝันไม่ได้มีขึ้นมาเฉยๆเพราะว่าการที่พวกเราฝันขณะที่กำลังนอนหลับเป็นการช่วยปลอบประโลมจิตใจเช่นเดียวกันกับได้ทำการบำบัดจิตด้วยตัวเองอย่างที่พวกเราไม่ได้นึกฝัน

ข้อดีของความฝัน

นอกจากความฝันตามความศรัทธาทางไสยศาสตร์จะให้คำทำนายต่างๆนานา ได้แล้ว ทางด้านวิทยาศาสตร์เอง ความฝันก็มีสาระต่อพวกเราด้วยเหมือนกัน พวกเราสามารถฝันได้ตั้งแต่เรื่องไร้สาระที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของพวกเราตอนนั้นไปจนถึงเรื่องที่พวกเราหวาดกลัว หรือเป็นห่วงในสมัยก่อน รวมถึงความทรงจำอันเลวร้าย เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง แต่ว่าพวกเราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับสิ่งพวกนั้น การที่พวกเราฝันถึงสิ่งแย่ๆเหล่านี้เป็นกระบวนการทางสมองที่ต้องการบำบัดจิตใจของพวกเราเองให้คุ้นชิน และก็ยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่พวกเราหวาดกลัว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  entaplay

“หน่อไม้” อาหารแสลง หรือเราแค่คิดไปเอง ?

“หน่อไม้” มักอยู่ในรายชื่อของกินที่ผู้ใหญ่มักไม่แนะนำให้บุตรหลานกิน รวมทั้งตนเองด้วย ด้วยความเชื่อว่า หน่อไม้อันตราย เป็นของกินแสลง ส่งผลให้เกิดโรคอันตราย เป็นแผลก็จะยิ่งทำให้แผลแย่ลง โดยยิ่งไปกว่านั้นหลังผ่าตัด รวมทั้งยังเป็นต้นเหตุของโรคอันตรายอย่าง “โรคมะเร็ง” อีกด้วยแต่ว่าที่จริงแล้ว ความเชื่อพวกนี้ เป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน ?

>> หน่อไม้เป็นอาหารแสลง แสลงจริงหรือแค่คิดกันไปเอง?

หน่อไม้ เป็นหน่ออ่อนของไผ่ที่แตกจากเหง้าใต้ดินมีลักษณะสีเหลืองอ่อน รสสัมผัสกรุบกรอบ ราคาประหยัด สามารถเอามาทำกับข้าวได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งต้ม ผัด แกง ทอด รวมทั้งยังได้รับความนิยมกันอย่างมากมาย ไม่ใช่เพียงแต่ในประเทศไทยเพียงแค่นั้น

หน่อไม้ อันตรายจริงหรือ ?

หน่อไม้ มีอีกทั้งประโยชน์ แล้วก็โทษ ถ้าหากเลือกรับประทานอย่างเหมาะควร ก็สามารถให้ผลดีต่อสภาพร่างกายได้ แต่ว่าหากกินหน่อไม้ไม่ถูกวิธี ปราศจากความรอบคอบสำหรับในการรับประทาน ก็บางทีอาจเป็นอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้จริงๆหน่อไม้ที่พวกเราบริโภคกัน มีอยู่หลากหลายชนิดได้แก่

หน่อไม้ดิบ

นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกว่า หน่อไม้ดิบหรือหน่อไม้ที่ยังปรุงไม่สุก บางทีอาจได้รับพิษจากสารไซยาไนด์ ซึ่งมีอยู่ในหน่อไม้ตามธรรมชาติ แล้วก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพถ้าเกิดไปสู่ร่างกายในจำนวนน้อย สามารถขับออกทางฉี่ได้ แต่ถ้าหากได้รับในจำนวนมาก สารไซยาไนด์จะจับตัวกับสารในเม็ดเลือดแดง (hemoglobin) แทนที่ออกซิเจนก่อให้เกิดอาการขาดออกซิเจน หมดสติและก็อาจจะส่งผลให้เสียชีวิตได้

ด้วยเหตุดังกล่าว ควรต้องหลบหลีกการบริโภคหน่อไม้ดิบ นายมงคล เจนจิตติกุล ผู้อำนวยการสำนักคุณภาพและก็ความปลอดภัยอาหาร บอกว่า การบริโภคหน่อไม้ที่ต้มสุกจะมีผลให้ผู้ซื้อไม่เป็นอันตรายและก็ปลอดภัยจากการได้รับสารไซยาไนด์ แต่ว่าถ้าหากอุณหภูมิและก็ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการต้มไม่เหมาะสมก็ไม่อาจจะลดจำนวนสารประเภทนี้ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีความปลอดภัยของผู้ใช้ก่อนที่จะนำหน่อไม้ไปบริโภคควรจะปรุงให้สุก ด้วยการต้มหน่อไม้ในน้ำเดือดนานอย่างน้อย 10 นาที ซึ่งสามารถลดปริมาณสารไซยาไนด์ลงได้ถึงปริมาณร้อยละ 90.5

หน่อไม้ดอง

หน่อไม้เป็นของกินอีกหนึ่งจำพวกที่นิยมเอามาดองเพื่อการรักษาของกินเอาไว้ให้ได้นานยิ่งขึ้น โดยมักกระทำการดองเอาไว้ภายในปิ๊บเป็นเวลายาวนานหลายเดือน ถ้าหากกระบวนการดองไม่สะอาดเพียงพอ จะเกิดเป็นเชื้อแบคทีเรีย Clostridium botulinum เจริญเติบโตอยู่ในหน่อไม้ที่อยู่ในปี๊บ

ถ้าหากนำมาทำกับข้าวด้วยความร้อนที่ไม่พอ บางทีอาจได้รับเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลให้เกิดอาการอาเจียน ท้องร่วง คลื่นไส้ ท้องเสีย ถ้าหากสารพิษโบทูลินเริ่มซึมจากระบบทางเดินอาหาร ไปสู่กระแสโลหิตแล้วก็ระบบประสาท บางทีอาจมีผลเสียต่อรูปแบบการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย ดังเช่นว่า กล้ามเนื้อหนังตา ดวงตา บริเวณใบหน้า การพูดการกลืนเปลี่ยนไปจากปกติ กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนกำลัง หายใจไม่ออก รวมทั้งบางทีอาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

ได้รับการสนับสนุนมาจาก  dewabet

ประโยชน์ของน้ำดื่มที่เมื่อคุณรู้แล้วต้องรีบหามาดื่มทันที

ร่างกายของคนเราจะประกอบด้วยน้ำประมาณ 55% มนุษย์เราต้องการน้ำเข้าไปช่วยหล่อเลี้ยงภายในร่างกายเป็นจำนวนมากการดื่มน้ำควรดื่มให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการเพื่อที่ร่างกายจะได้ใช้ประโยชน์จากน้ำที่เราดื่มเข้าไปหากเมื่อใดก็ตามที่เรากินน้ำน้อยอาจจะทำให้ร่างกายของเราขาดน้ำซึ่งจะมีผลทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ปริมาณน้ำที่ร่างกายของเราต้องการในแต่ละวันนั้นตามข้อมูลแล้วควรจะดื่มวันละประมาณแปดถึง 10 แก้ว

คุณอยากรู้มั้ยว่าน้ำที่เราดื่มเข้าไปในปริมาณมากขนาดนี้จะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรได้บ้าง

  1. อย่างแรกเลยการดื่มน้ำจะช่วยขจัดกลิ่นปาก การที่เราดื่มน้ำเข้าไปมากๆจะช่วยให้ไปล้างเศษอาหารที่ตกค้างรวมถึงแบคทีเรียที่อยู่ตามซอกฟันซอกปากให้มีการเจือจางลงทำให้แบคทีเรียที่มาสร้างความเหม็นของปากเราเจอจางลงกินเหม็นรถน้อยลงซึ่งจะหากเรากินน้ำน้อยก็จะทำให้เรามีกินปากได้
  2. ช่วยในเรื่องของลดอาการเมื่อยล้าของร่างกายเพราะมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าหากร่างกายขาดน้ำก็จะทำให้รู้สึกอ่อนล้าไม่มีแรงโดยถ้าหากร่างกายเรามีปริมาณน้ำไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการจะทำให้หัวใจของเราต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะไปปั๊มออกซิเจนในเลือดให้ไปทำงานตามอวัยวะต่างๆของร่างกายแต่ถ้าหากเรากินน้ำได้เพียงพอร่างกายเราก็จะไม่รู้สึกอ่อนล้าหัวใจของเราก็จะไม่ต้องทำงานหนักซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น
  3. การกินน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการนั้นจะช่วยให้สุขภาพผิวของเราดีมีความชุ่มชื้นไม่เหี่ยวและไม่แก่ง่าย
  4. ช่วยลดปัญหาอาการเมาค้างหาใครที่กินแอลกอฮอล์เข้าไปการกินน้ำจะช่วยเข้าไปขับปัสสาวะและแอลกอฮอล์ที่มีการสะสมข้างอยู่ในร่างกายให้ออกมาจากร่างกายและทำให้เราไม่เมาค้างซึ่งหากต้องการแก้ปัญหาการเมาค้างควรจะดื่มน้ำเข้าไปประมาณ 16 -20 ออนซ์ก่อนที่เราจะนอนหลับจะช่วยให้ตื่นเช้าขึ้นมาเราจะหมดปัญหาอาการเมาค้างไปเลย
  5. หากเราขาดน้ำจะทำให้อารมณ์ของเราหงุดหงิดได้ง่ายอาจจะเพราะหากขาดน้ำลำคอจะรู้สึกแห้งปากริมฝีปากจะแห้งจึงทำให้เรามักหงุดหงิดง่ายการดื่มน้ำเข้าไปจะช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์ของเราได้ซึ่งหากเราไม่แน่ใจว่าเราอยู่ในช่วงของการขาดน้ำหรือไม่เราสามารถตรวจสอบจากสีของปัสสาวะของเราได้หากสีของปัสสาวะมีสีเข้มแสดงว่าร่างกายของเรากำลังขาดน้ำอยู่ให้รีบเติมน้ำเข้าไปโดยด่วน

โรคเนื้อเน่าเป็นอย่างไร

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคเนื้อเน่าซึ่งมีสถาบันผิวหนังได้ระบุว่าโรคเนื้อเน่าคือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นการกินเนื้อของคนเรานั้นโดยสิ่งเร้านั้นมักจะเกิดจากการติดเชื้อเกี่ยวกับผิวหนังแบคทีเรียเรานั้นจะทำปฏิกิริยากับผิวหนังของเราโดยส่วนใหญ่แล้วจะมี การระบาดมากที่สุดในช่วงฤดูฝน โดยโรคเหล่านี้มักจะเกิดกับเกษตรกรเสียส่วนใหญ่เพราะพวกเขามีการลุยน้ำลุยโคนซึ่งการติดเชื้อเหล่านี้สามารถติดขึ้นได้ไงง่ายและรวดเร็วแถมอาการอย่างรุนแรงมาอีกด้วยดังนั้นหากมีการติดเชื้อประเภทนี้ให้รีบทำการรักษาโดยด่วนควรรีบพบแพทย์เพราะหากมีการล่าช้าในการรักษาอาจจะสูญเสียอวัยวะในบางส่วน ร้ายแรงสุดก็ทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน

อธิบายคำว่า โรคเนื้อเน่ามีดังนี้

สำหรับโลกนี้มีการระบุโดยนายแพทย์มนัส โพธาภรณ์  ซึ่งนายแพทย์คนนี้มีตำแหน่งเป็นถึงรองอธิการบดีกรมการแพทย์อีกด้วยและท่านได้เปิดเผยว่าโรคเนื้อเน่านี้เป็นโรคที่ติดเชื้อที่มีการเกิดการสะสมจากแบคทีเรียหลากหลายชนิดโดยการติดเชื้อเหล่านี้ อาจเป็นการติดเชื้อโดยการไปคุกโคนหรือเป็นการโดนหอยหรือเศษแก้วหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราเป็นแผลและไปสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรงหากเชื้อโรคมีการเข้าบัตรแผลโดยตรงหรือสัมผัสกับแพด้วยตรงนั้นมันจะลามเข้าสู่ร่างกายโดยเร็วที่สุดซึ่งมันจะก่อตัวเป็นระบบการสร้างเอนไซม เพื่อเป็นการย่อยสลายเกี่ยวกับเนื้อของเราดังนั้นเนื้อของเราก็จะเกิดการเน่าและลามไปทั่วอย่างเร็วที่สุด

บุคคลที่เสี่ยงเป็นโรคเนื้อเน่านี้เป็นอย่างไร

สำหรับโรคเนื้อเน่าเราสามารถที่จะพบได้กับทุกเพศทุกวัยซึ่งสำหรับบุคคลที่มีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆติดตัวอยู่นั้นอาจจะเป็นโรคนี้ได้เร็วมากกว่าบุคคลอื่นๆที่มีความแข็งแรงเพราะเชื้อโรคมาสามารถเข้าสู่ร่างกายได้เร็วกว่ากันนั่นเองโดยโรคต่างๆเหล่านี้ที่เป็นแกนนำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้เร็วขึ้นได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง บุคคลที่มีภาวะกดภูมิต่ำ และอื่นๆอีกมากมาย

อาการของบุคคลที่เป็นโรคเนื้อเน่ามีดังนี้

สำหรับท่านใดที่สงสัยว่าตัวเองเป็นโรคเหนือหนาวหรือเปล่าให้สังเกตุอาการดังนี้อาการต่างๆมักจะเกิดขึ้นโดยมีผิวหนังที่สีแดงและมีอาการบวมซึ่งหากมันติดเชื้อเรากดไปที่แผนเหล่านั้นจะมีการอักเสบและเจ็บมากซึ่งอาการเหล่านี้หาไม่ได้รักษาโดยด่วน สีจะ เปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำและจะมี ตุ่มพองสำหรับผิวหนังนั้นจะตายลงไปเรื่อยเรื่อยและขยายเป็นวงกว้างหากเป็นมากขึ้นจะลามไปถึงเส้นประสาทอาการต่างๆจะพบได้วิธีเหมือนกับไข้ สังเกตุได้จากจะมีอาการหนาวสั่นขึ้นไส้อาเจียนและหัวใจจะเต้นแรงผิดปกติซึ่งหากมีการติดเชื้อที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้คุณช็อคได้และนำไปสู่การเสียชีวิตได้ง่าย

การทำความสะอาดบ้านส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงได้จริงๆนะ

สำหรับบางคนหรือบ้านบางหลังไม่ชอบทำความสะอาดกันเท่าไหร่นักโดยอ้างว่าไม่ค่อยมีเวลาหรือเหนื่อยจึงเลี่ยงที่จะไม่ทำความสะอาดโดยที่ไม่คำนึงถึงเชื้อโรคที่ตามมาก่อให้เกิดผลเสียแก่ร่างกายของเราซึ่งหากร่างกายของเราได้รับเชื้อโรคเข้าไปมากๆส่งผลให้เกิดร่างกายอ่อนแอเจ็บไข้ได้ป่วยติดเชื้อโรคหรือเป็นโรคอื่นๆตามมาไม่ว่าจะเป็นโรคผิวหนังหรือโรคที่เกิดจากระบบภายในของร่างกายของเรานั่นเอง

การทำความสะอาดที่เราไม่ควรมองข้าม

การกวาดพื้นถูพื้น

ใครว่างสิ่งเหล่านี้จะไม่สำคัญไม่ใช่ว่ามองมาแล้วพื้นสะอาดจะไม่มีเชื้อโรคโดยเรานั้นจำเป็นที่จะต้องกวาดถูทุกวันเพราะเชื้อโรคมักจะเกาะอยู่ตามพื้นทำให้สัมผัสกับร่างกายโดยตรงซึ่งเรานั้นก็อาจจะไม่รู้ตัวเลย ด้วยซ้ำ

การกวาดหยากไย่

สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามอีกสิ่งหนึ่งนั่นคือ การกวาดหยากไย่ ที่อยู่ตามเพดานเพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่นำพาสัตว์ร้ายเข้าบ้านเราได้ ไม่ว่าจะเป็นงู หรือสัตว์มีพิษที่ร้ายแรงต่างๆเพราะการที่มีบ้านสกปรกเป็นสิ่งที่ดึงดูดสัตว์มีพิษเหล่านั้นโดยตรงหากเรานั้นได้ทำความสะอาดสัตว์เรานั้นก็จะไม่เข้ามานั่นเอง

การทำความสะอาดพัดลม

ส่วนใหญ่คนมักจะมองข้ามในการทำความสะอาดพัดลมแต่คุณรู้หรือไม่ว่าฝุ่น มักจะมากับลมที่พัดออกมาจากพัดลมนั่นเองพัดลมเป็นตัวดึงดูดอากาศที่ทำให้เราเย็นสบายแต่หากพัดลมมีความสกปรก ก็จะเป็นการนำเชื้อโรคต่างๆเข้ามาสู่เราได้ง่ายเพราะเรามักจะสูดดมจากอากาศที่พัดลมได้พัดเข้ามานั้นซึ่งเราควรทำความสะอาดใบพัดลมให้บ่อยครั้งเพราะนั่นคือสิ่งจำเป็นที่ส่วนใหญ่ที่มีการมองข้ามกันมากสุด

การทำความสะอาดจานชามหลังการใช้งาน

จากที่เราเห็นคนส่วนใหญ่มักจะกินแล้วไม่ค่อยล้างจานชามเรานั้นกันสักเท่าไหร่คุณรู้หรือไม่ว่าในการ ทำความสะอาดรนั้นเป็นการฆ่าเชื้อโรคหากคุณไม่ยอมล้างในทันทีหลังจากที่คุณมีการใช้งานมันจะทำให้เชื้อโรคเรานั้นเพราะติดจานและชามมากขึ้นโดยที่ภาชนะเหล่านั้นจะล้างออกยากและเชื้อโรคเรานั้นจะไม่หลุดออกไปจากภาชนะเหล่านั้นเลย มันเป็นเรื่องยากที่จะมีการบังคับให้หลังจานหรือชามหรือภาชนะต่างๆหลังการใช้งานทันทีแต่คุณ ควรฝึกเพื่อให้เป็นความชินจะได้ไม่ก่อให้เกิดเชื้อโรคที่ติดตามภาชนะเหล่านั้

การทำความสะอาดผ้าปูที่นอน

ในการนอนแต่ละวันหากมีอากาศที่ร้อนร่างกายของเราก็จะมีเหงื่อ ออกได้ง่ายและเป็นสิ่งที่ทำให้ที่นอนของท่าน เบื่อนได้ง่ายขึ้นซึ่งจะเป็นวิธีการที่ก่อให้เกิดเชื้อโรคต่างๆเข้ามาสู่ร่างกายของคุณโดยที่คุณนั้นไม่ทันรู้ตัวบางท่านนอนที่นอนที่ไม่เคยซักหรือไม่ผ่านการฆ่าเชื้อเป็นเวลานานนานอาจส่งผลให้เกิดผื่นคันตามร่างกายบางคนถึงกับ เป็นการติดเชื้ออีกด้วย